สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ศูนย์จิตวิทยาการศึกษา มูลนิธิยุวสถิรคุณ จัดงานประชุมวิชาการ “กล้าก้าว (Growth Mindset) : เติบโตด้วยศรัทธา เติบกล้าด้วยแรงใจ” ภายใต้โครงการวิจัยปฏิบัติการโรงเรียนพัฒนาคุณภาพต่อเนื่อง (School Quality Improvement Program : sQip) เพื่อร่วมกันค้นหาแนวทางการบริหารจัดการการศึกษารูปแบบใหม่ ร่วมกันทั้งโรงเรียน ครูและชุมชน พร้อมทั้งแสวงหาแนวทางการรับรองมาตรฐานและคุณภาพการศึกษาที่สอดคล้องกับบริบทโรงเรียน
และในโอกาสนี้ได้จัดพิธีการลงนามในบันทึกความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างเครือข่ายโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการอย่างเป็นทางการ 202 โรงเรียน ครูแกนนำ 4,000 คน ในพื้นที่ 14จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง น่าน สุโขทัย อำนาจเจริญ สุรินทร์ เพชรบุรี กาญจนบุรี ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า โครงการนี้ มีจุดเด่นตรงที่มีเครือข่ายโรงเรียน ครู และบุคลากรที่ล้วนมีความสมัครใจมุ่งมั่น ที่จะร่วมกันพัฒนาโรงเรียนให้ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นกระบวนการกระตุ้นให้เกิดการ “ระเบิดจากภายใน” เริ่มจากการผูกหัวใจให้ “ครูรักเด็ก เด็กรักครู” เมื่อสำเร็จแล้วโรงเรียนจะเลือกเป้าหมายพัฒนาให้ตรงกับชีวิตจริงของนักเรียน และบริบทของโรงเรียน ร่วมกับมาตรการอื่นๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อยกระดับผลการเรียนรู้ของนักเรียน โดยจะมีการวิจัยควบคู่ไปตลอด ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าการปฏิรูปการศึกษาที่ดีต้องเกิดขึ้นในพื้นที่ ไม่ใช่ส่วนกลาง เมื่อใดก็ตามที่ใช้วิธีการตัดเสื้อตัวเดียวแล้วใช้ทั่วประเทศจะไม่สำเร็จ
“โครงการนี้เป็นการทำงานที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนในเขตพื้นที่ยากลำบาก มุ่งพัฒนาให้แก่โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ คือ Growth Mindset เป็นการพัฒนาให้ทั้งครูและนักเรียน มีความอยากเรียนรู้ตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นเครื่องมือที่วงการศึกษาทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ และนำไปใช้เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาของตนเอง โดยเฉพาะการค้นหาแนวทางยกระดับมาตรฐานคุณภาพโรงเรียนด้วยบุคลากรในโรงเรียนร่วมกับชุมชน ทำให้ครูและบุคลากรในโรงเรียนเชื่อมั่นว่า โรงเรียนพัฒนาตนเองได้ ซึ่งนับต่อจากนี้ไป โรงเรียน มหาวิทยาลัย อาชีวศึกษา จะทำหน้าที่เป็นผู้กำหนดแนวทางและทำให้เกิดสถานศึกษาที่ได้มาตรฐานด้วยตนเอง โดยมีเป้าหมายในการประเมินตนเองร่วมกันส่วนการสนันสนุนจาก สพฐ. ครูที่สนใจสามารถใช้นโยบายคูปองการศึกษาเพื่อพัฒนาตนเองได้ โดยเสนอต่อผู้อำนวยการโรงเรียนให้เป็นผู้อนุมัติ”
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า ในต้นเดือน เม.ย.60 นี้ ทาง ศธ.จะรวบรวมหลักสูตรที่น่าสนใจ และเชื่อว่าคุณครูกว่า 4,000 คน ใน202โรงเรียน ที่เข้าร่วมโครงการนี้จะได้ประโยชน์ และถือเป็นนิมิตรหมายอันดีในการเดินหน้าและขยายเครือข่ายครู sQip อย่างเป็นทางการ
“…ดิฉันเชื่อว่าครูจะมีความสุขได้นั้น
ก็เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลง
ที่เกิดขึ้นแก่ศิษย์
มิใช่ความสุข…
ความสบายใจที่เกิดแก่ตัวครู…”
——————
ด้าน ดร.คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา อดีตปลัด ศธ.ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับทิศทางโครงการ sQip กล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และชุมชน จะได้เรียนรู้ร่วมกัน เพื่อหาทางเลือกในการจัดการศึกษารูปแบบที่เหมาะสมกับลูกหลาน และสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ ซึ่งตนไม่ได้พุ่งความคาดหวังไว้ที่โรงเรียน แต่อยากให้ทุกท่านให้ความสำคัญกับวิธีคิด วิธีจัดการว่าจะมีทางเลือกใดที่เหมาะสมในการพัฒนาโรงเรียนของตน มิใช่วิธี “เหมาเข่ง” ที่ต้องผลักดันให้ทุกโรงเรียนใช้วิธีเดียวกัน
“อยากให้ทุกท่านตระหนักคิดในทุกขณะว่าทางเลือกที่ร่วมกันคิดค้น ทั้งในเรื่องวิธีการบริหารจัดการ หลักสูตร หรือสิ่งใดๆ ก็ตาม อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย แต่กลับเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายได้เรียนรู้ร่วมกันระหว่างทาง โดยเฉพาะการดำเนินงานบนข้อจำกัดเรื่องความขัดสนและความไม่พร้อม ต้องดำเนินไปบนความพอดี อย่าได้ยึดติดกับกายภาพ เช่น อาคารหรือสถานที่ ส่วนเป้าหมายของ sQip ที่มุ่งให้ครูมีความสุขต่อการทำหน้าที่ครู เด็กสนุกกับการเรียนรู้ อาจไม่กินความได้เท่ากับความรู้สึกที่ทุกท่านเสียสละ ดิฉันเชื่อว่าครูจะมีความสุขได้นั้นก็เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแก่ศิษย์ มิใช่ความสุข ความสบายใจที่เกิดแก่ตัวครู“ดร.คุณหญิงกษมา กล่าว
สำหรับหัวใจหลักของ sQip ประกอบด้วย 5ปัจจัย ดังนี้
Q-Coach ทีมโค้ชคุณภาพช่วยจุดประเด็นและจัดกระบวนการช่วยเหลือ
Q-Info ระบบสารสนเทศเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการทำงาน
Q-PLCs เครือข่ายชุมชนการเรียนรู้ เสริมสร้างชุมชนครูให้เข้มแข็ง
Q-Network เครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างโรงเรียน
และ Q-Goal กระตุ้นให้เกิดเป้าหมายร่วมของบุคลากรและชุมชน
และเมื่อเชื่อมโยงกับ Growth Mindset ก็จะทำให้เกิดพลังในการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนได้อย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้น
——————
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ