-- advertisement --

จากจิตรกรรมฝาผนังวัดคูเต่า สู่ทายาทหนังตะลุง

อาจารย์ศิลปกรรม มรภ.สงขลา ศึกษาจิตรกรรมฝาผนังวัดคูเต่า คว้ารางวัลผลงานวิจัยระดับดีมาก ภาคบรรยายสาขาสังคมศาสตร์ แนะจัดทำหลักสูตรการเรียนระยะสั้น หวังชุมชนเห็นคุณค่าหนังตะลุง ร่วมปั้นทายาททางวัฒนธรรมสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น

ผศ.ดร.กฤติยา ชูสงค์ อาจารย์ประจำโปรแกรมวิชานาฏศิลป์และการแสดง คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนพร้อมด้วยอาจารย์นักวิจัย ร่วมนำเสนอผลงานวิจัยในงานประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 28 ซึ่งผลงานของตนและอาจารย์ตถาตา สมพงศ์ คว้ารางวัลการนำเสนอผลงานวิจัยในระดับดีมาก ภาคบรรยายสาขาการศึกษา-สังคมศาสตร์ โดยตนศึกษาเรื่องจิตรกรรมฝาผนังสู่การเรียนรู้ : ศิลปะการแสดงพื้นบ้านหนังตะลุงอัตลักษณ์ท้องถิ่น : กรณีศึกษาวัดคูเต่า ต.แม่ทอม อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญในการอนุรักษ์ สืบสาน และถ่ายทอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยให้เยาวชนและคนในชุมชนเรียนรู้ ถึงศิลปะการแสดงพื้นบ้านหนังตะลุง ที่เชื่อมโยงเรื่องราวจากภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดคูเต่า เรื่องพระเวสสันดรชาดก ทำให้เยาวชนและคนในชุมชนตระหนักถึงคุณค่าและอัตลักษณ์ของจิตรกรรมฝาผนังที่ได้รับอิทธิพลมาจากการแสดงหนังตะลุง และเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกในการสืบสาน อนุรักษ์ อีกทั้งเป็นการสร้างทายาททางวัฒนธรรมผลิตผลงานศิลปะการแสดงพื้นบ้านหนังตะลุงให้คงอยู่คู่ชุมชนวัดคูเต่า

ผศ.ดร.กฤติยา กล่าวว่า ผลการวิจัยพบว่าเยาวชน และคนในชุมชน ให้ความสนใจและเห็นคุณค่าของศิลปะการแสดงพื้นบ้านหนังตะลุง อันเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของชาวคูเต่ามากขึ้น โดยให้ความร่วมมือเข้าร่วมกระบวนการจัดการเรียนรู้ และถ่ายทอดศิลปะการแสดงพื้นบ้านหนังตะลุง ที่กำลังเลือนหายไปจากวิถีชีวิตของชาวชุมชน ซึ่งการสร้างแหล่งเรียนรู้ศิลปะการแสดงพื้นบ้านหนังตะลุง จากภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดคูเต่า เป็นการสร้างแหล่งเรียนรู้ ให้มีชีวิตผ่านศิลปะการแสดงพื้นบ้านหนังตะลุง ในรูปแบบการจัดการเรียนรู้ การฝึกหัด การแสดง และการต่อยอดองค์ความรู้จากภาพจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งเกิดจากความตระหนักและเห็นคุณค่าของภูมิปัญญาด้านจิตรกรรมและศิลปะการแสดงพื้นบ้าน สะท้อนให้เห็นถึงพลังการรวมกลุ่มเพื่อรักษาและอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้เกิดความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของท้องถิ่น

“คณะหนังตะลุง ในปัจจุบันปรับเปลี่ยนและพัฒนารูปแบบการแสดง โดยนำเอาสื่อและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาประกอบการแสดง เครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบการแสดงแบบสมัยก่อน ก็ปรับเปลี่ยนจากเครื่องห้า กลอง ทับ โหม่ง ฉิ่ง ปี่ นำเครื่องดนตรีสากล เช่น กลองชุด กีตาร์ เบส คีบอร์ด ฯลฯ เพื่อสร้างความน่าสนใจ ดังนั้น การสร้างทายาททางหนังตะลุง เพื่อทำหน้าที่สืบสานศิลปะการแสดงพื้นบ้านนี้ไว้จึงมีความสำคัญยิ่ง เพราะบทบาทของหนังตะลุงมีอิทธิพลอย่างมากต่อชาวใต้”

ผศ.ดร.กฤติยา กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันศิลปะการแสดงพื้นบ้านภาคใต้หลายแขนงเริ่มเลือนหายและมีบทบาทลดน้อยลงจากวิถีชีวิตประจำวันของชาวใต้ การสร้างทายาททางวัฒนธรรม จึงเป็นสิ่งที่ควรทำให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนและยั่งยืน ซึ่งการเข้ามามีส่วนร่วมของชุมชนถือเป็นสิ่งสำคัญ หากผู้นำชุมชนหรือศิลปินพื้นบ้านยืนหยัดที่จะรักษา สืบสาน และอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น สิ่งเหล่านี้ก็จะคงอยู่คู่ชุมชนต่อไป

ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านวัฒนธรรม ควรสนับสนุนให้ความรู้แก่เยาวชน และคนในชุมชน เพื่อสร้างความเข้าใจและปลูกจิตสำนึก ในการอนุรักษ์และหวงแหนศิลปะและวัฒนธรรมของท้องถิ่น เช่น สถาบันการศึกษาระดับต้นและระดับปลาย ควรจัดทำเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนระยะสั้นเกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่นนั้นๆ เช่น การเรียนรำโนรา การฝึกหัดเล่นหนังตะลุง การฝึกหัดบรรเลงเครื่องห้า (ทับ กลอง โหม่ง ฉิ่ง ปี่ ) เพลงเรือ การแทงหยวก เป็นต้น

-- advertisement --