-- advertisement --

ม.วลัยลักษณ์ จัดค่ายวัฒนธรรมไร้พรมแดน

มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) เตรียมจัดค่ายวัฒนธรรมนานาชาติ ครั้งที่ 2 เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมไร้พรมแดน” มีนักศึกษาจาก 50 ประเทศทั่วโลกสมัครเข้าร่วมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม

ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดี มวล. เปิดเผยว่า มวล.มีเป้าหมายในการก้าวสู่ความเป็นนานาชาติ โดยเริ่มจากปฏิรูปการเรียนการสอนโดยนำมาตรฐาน UKPSF (UNITED KINGDOM PROFESSIONAL STANDARDS FRAMEWORK) มาใช้ ให้ความสำคัญกับการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษของนักศึกษา มีการจัดตั้ง “สถาบันภาษา” เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะสากลให้แก่นักศึกษา สนับสนุนให้นักศึกษาไปปฏิบัติงานสหกิจศึกษาในต่างประเทศ รวมทั้งการส่งเสริมวัฒนธรรมสู่สากล โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยได้ริเริ่มจัดค่ายวัฒนธรรมนานาชาติเป็นครั้งแรก ได้รับความสนใจจากนักศึกษานานาชาติจาก 21 ประเทศ จำนวน 110 เข้าร่วมคน และมีเป้าหมายที่จะจัดกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับในปี 2561 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-23 มิ.ย.2561 เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมไร้พรมแดน” เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาต่างชาติได้มารู้จักวัฒนธรรมไทย อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของชาติ และกลายเป็นทูตวัฒนธรรมที่จะช่วยในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยไปสู่สากลต่อไป ในขณะเดียวกันนักศึกษาไทยที่เข้าร่วมโครงการ จะมีโอกาสสร้างเครือข่ายกับนักศึกษาต่างชาติจากนานาประเทศทั่วโลก และเพิ่มพูนประสบการณ์การใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตจริง ที่สำคัญโครงการค่ายฯ ยังตอบสนองกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ทางด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเมืองรอง ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก ซึ่ง จ.นครศรีธรรมราช ถือเป็น 1 ใน 55 จังหวัดเมืองรองของประเทศไทย

ด้าน ผศ.ดร.พงศธร เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.โครงการค่ายวัฒนธรรมนานาชาติ มวล. กล่าวเสริมว่า ในปีนี้มีนักศึกษาให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ กว่า 750 คน จาก 300 มหาวิทยาลัย จาก 50 ประเทศ และ 5 ทวีปทั่วโลก และมีการคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดจำนวน 160 คน เข้าร่วมค่ายเป็นระยะเวลา 8 วัน โดยระหว่างวันที่ 16-20 มิ.ย. จะทำกิจกรรมที่ มวล. มีการแสดงวัฒนธรรมประจำชาติจากนักศึกษาทุกชาติจำนวน 25 ชุด นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการจะมีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมไทยผ่านกิจกรรมต่างๆ คือ ทำอาหารไทย ต่อยมวยไทย รำไทย และ ดนตรีไทย ตลอดจนกิจกรรมร่วมกับชุมชนทำความสะอาด ชายหาดที่ขนอม พร้อมการศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองนครศรีธรรมราช เยี่ยมชมวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ล่องเรือเยี่ยมชมลุ่มน้ำปากพนัง

จากนั้นจะเดินทางโดยรถไฟสู่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 21-23 มิ.ย.นักศึกษาจะมีโอกาสเยี่ยมชมวัดพระศรีรัตนศาสดารามและพระบรมมหาราชวัง รวมถึงการเข้าคาราวะ รมว.วัฒนธรรม และในพิธีปิดค่ายฯ นักศึกษาจะร่วมกันแสดงชุด “CULTURES WITHOUT BORDERS” ซึ่งจะเป็นการผสมผสานเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของแต่ละชาติเข้าด้วยกัน

“หัวใจสำคัญประการหนึ่งของการจัดโครงการค่ายฯ คือ การพัฒนาเยาวชนให้เป็นพลเมืองโลก ผู้ยอมรับในความแตกต่างทางวัฒนธรรม สีผิว และ ความเชื่อ ของพลเมืองแต่ละประเทศ และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาสังคมโลกให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง”ผศ.ดร.พงศธร เดชาติวงศ์ กล่าว

-- advertisement --