ม.สวนดุสิต ตั้งเป้ามหา’ลัย5.0 อธิการบดีเผย3ปีออกนอกระบบเติบโตก้าวกระโดด
รศ.ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต (มสด.) เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานของ มสด.ในการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ว่า มสด.เติบโตและเข้มแข็งมาตลอด 84ปี โดยมีวิสัยทัศน์และวางแผนกลยุทธ์ มสด.ปี 2561-2564 ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะทางมีอัตลักษณ์โดดเด่นด้านอาหาร การศึกษาปฐมวัย อุตสาหกรรมบริการ และการพยาบาลและสุขภาวะ ภายใต้กระบวนการพัฒนาเพื่อความเป็นเลิศ บนพื้นฐานของการจัดการคุณภาพ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติที่รัฐบาลได้วางนโยบายไว้ มสด.ได้เปลี่ยนสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐโดย พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยสวนดุสิต มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2558 จนถึงปัจจุบันจึงถือว่าครบรอบการออกนอกระบบของมหาวิทยาลัย 3 ปี ซึ่งสวนดุสิตไม่ได้เปลี่ยนแต่เพียงชื่อของมหาวิทยาลัย ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งใหม่ แต่สิ่งสำคัญคือ การเปลี่ยนแนวคิดและวิธีปฏิบัติให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ตาม พ.ร.บ.ใหม่
อธิการบดี มสด.กล่าวต่อไปว่า ในด้านหลักสูตรมีการปรับปรุงและพัฒนาตามเกณฑ์มาตรฐานอุดมศึกษา พัฒนากลุ่มวิชาการศึกษาทั่วไป ให้สอดคล้องกับบริบททางสังคมที่เปลี่ยนแปลง โดยบูรณาการองค์ความรู้จากคณะต่างๆ เข้าด้วยกัน นำความเชี่ยวชาญที่มีมาพัฒนาต่อยอด เพื่อเพิ่มศักยภาพของตัวหลักสูตร เช่น โรงเรียนกฎหมายและการเมือง ที่เพิ่งเปิดรับสมัครนักศึกษาเมื่อปีที่แล้ว ถูกบูรณาการศาสตร์ความรู้ทางด้านกฎหมายและการเมือง โดยการรวมหลักสูตรที่มีพื้นฐานทางวิชาการใกล้เคียงกันหรือสัมพันธ์กัน อย่างหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต และหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต มีการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับบริษัทเอกชน และเครือข่ายทางการศึกษาเพิ่มขึ้น ทำให้รู้ความต้องการของผู้ประกอบการอย่างแท้จริง นำมาปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัย สร้างความได้เปรียบให้แก่นักศึกษาสวนดุสิต เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว มีงานรองรับทันที ทั้งในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
“สำหรับบุคลากร ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยให้อยู่รอด จึงต้องมีสมรรถนะตามเกณฑ์มาตรฐานสมรรถนะบุคลากรของ มสด. ซึ่งได้กำหนดทิศทางการทำงานว่า บุคลากรต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง การทำงานในยุคสวนดุสิต 5.0 ต้องทำได้หลายหน้าที่ เรียนรู้องค์ความรู้ใหม่ และพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นอยู่เสมอ เพื่อความมั่นคงในการทำงานจึงจะสามารถเติบโตไปพร้อมกับมหาวิทยาลัยได้” อธิการบดี มสด.กล่าว
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ