-- advertisement --

ศธ.ย้ายผอ.สช.จังหวัดปัตตานี ออกจากพื้นที่ลุยสอบปมเงินอุดหนุน

ศธ.ย้ายผอ.สช.จังหวัดปัตตานี ออกจากพื้นที่ลุยสอบปมเงินอุดหนุนนักเรียน/ขอเอกสารกรมบัญชีกลาง-สอศ.ขยายผลปมจัดสร้างอะควาเรียม

วันที่ 4 เม.ย.2561 นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ท.ปิยะวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เข้าตรวจสอบโรงเรียนเอกชนในจ.ปัตตานี พบหลักฐานน่าเชื่อได้ว่าโรงเรียนบางแห่งมีพฤติกรรมทุจริตงบประมาณอุดหนุนโรงเรียนใน จ.ปัตตานี มูลค่าความเสียหายปีละไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท ทำให้เยาวชนเสียโอกาสทางการศึกษา หรือเสียประโยชน์อันพึงได้ประมาณ ปีละ 101,000 คน จากนักเรียนทั้งหมด 165,072 คน มีครูที่ได้รับสนับสนุนงบประมาณจากรัฐเป็นค่าตอบแทนรายเดือน เสียประโยชน์อันพึงได้ ประมาณ 4,000 คน ว่า ขณะนี้ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงษ์ รมช.ศึกษาธิการ รายงานให้ตนได้รับทราบแล้ว ซึ่งตนได้มอบหมายให้นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ.ในฐานะผู้บังคับบัญชา ทำตามมาตรการปราบปรามและป้องปรามการทุจริต ของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ย้ายผู้ที่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ไว้ก่อน ซึ่งทราบว่า มีการย้าย ผอ.สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดปัตตานี และสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอแล้ว จากนั้นจะเริ่มกระบวนการสืบสวนต่อไป เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงหากพบว่ามีการทุจริต จัดการทันที

ด้าน พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการดำเนินงานโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรืออะควาเรียม ที่วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มี นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ. เป็นประธาน ได้นำขอมูลจากการลงพื้นที่ตรวจสอบการจัดสร้างอะควาเรียม มาหารือร่วมกับคณะกรรมการชุดของตนเอง

ซึ่งข้อมูลที่ได้ส่วนใหญ่ตรงกับที่เราตั้งประเด็นไว้ เช่น การจ่ายเงินล่วงหน้า 125 ล้านบาท มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน การขอแก้สัญญาถึง 6 ครั้ง จนทำให้มีการขยายเวลาการดำเนินงาน จากเดิมกำหนดแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2553 แต่ไม่เสร็จ ขยายเวลาไปถึงปี 2557 ซึ่งต้องไปดูรายละเอียดว่า รัฐได้เปรียบจริงหรือไม่ รวมถึงยังมีประเด็นเรื่องค่าปรับวันละ 8 หมื่นบาท ว่าฝ่าย สอศ.ได้ใช้สิทธิเรียกค่าปรับตามสัญญาอย่างละเอียดหรือไม่ อีกทั้งยังมีกรณีที่ สอศ.จัดสรรงบฯ ลงไปอีกในปี 2558 จำนวน 126 ล้านบาท ปี 2559 จำนวน 42 ล้านบาท และในปี 2560 จำนวน 69 ล้านบาท ซึ่งพบว่างบฯ ที่จัดสรรลงไปทั้ง 3 ปี นำไปจัดสร้างในส่วนของภายนอกไม่เกี่ยวกับภายตัวอาคาร ซึ่งน่าจะมีความผิดปกติ แต่ยังได้เอกสารไม่ครบตามที่ต้องการ

พล.ท.โกศล ยังกล่าวด้วยล่าสุดคณะกรรมการตรวจสอบฯ ทำหนังสือไปยังกรมบัญชีกลาง และ สอศ.เพื่อขอเอกสารที่เกี่ยวข้องประมาณ 30-40 เรื่อง เมื่อได้เอกสารจะทำการศึกษา จากนั้นจะเชิญพยานบุคคลเข้ามาให้ข้อมูลโดย จะดูจากเอกสารว่า มีความเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดบ้าง

“เท่าที่ดูคราว ๆ จะเกี่ยวข้องกับกรรมการตรวจรับ กรรมการบริหารโครงการ อดีตเลขาธิการ กอศ. และบริษัทที่จัดสร้าง ซึ่งขณะนี้ทราบว่าปิดตัวไปแล้ว และพบว่ามีการทำสัญญาที่ผิดปกติ ส่วนจะผิดปกติอย่างไรนั้น คงพูดไม่ได้ โดยคาดว่าจะมีความคืบหน้าเร็ว ๆ นี้”

พล.ท.โกศล กล่าวและว่า สำหรับการดำเนินการตรวจสอบจะทันภายใน 7 วันตามมาตรการปราบปรามและป้องปรามการทุจริต ของ คสช.หรือไม่นั้น ทางคณะกรรมการตรวจสอบฯ เองก็มีความกังวล เพราะข้อมูลต่าง ๆ ค่อนข้างมาก ตนก็ได้บอกนายการุณ ไปว่าไม่ต้องห่วง โดยได้หารือกับ รมว.ศึกษาธิการ ว่าเรื่องนี้ควรต้องให้เวลาค่อนข้างมาก เพราะผ่านมถึง 10 ปี และเอกสารต่าง ๆ ค่อนข้ามมาก รวมถึงจะต้องลงลึกในรายละเอียดเพื่อไม่ให้ไปกล่าวหาคนผิด

-- advertisement --