-- advertisement --

ดร.อรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการสภาการศึกษา นายยศพล เวณุโกเศศ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พร้อมด้วย ดร.ศศิรัศม์ วีระไวทยะ ผอ.สำนักนโยบายความร่วมมือกับต่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) และคณะผู้แทนอาชีวศึกษา เข้าร่วมประชุมการประชุมการศึกษาและทักษะแห่งอนาคตในปี 2030 ครั้งที่ 5 (5th Global Forum of Future of Education and Skills 2030) ในฐานะผู้แทนด้านการศึกษาภาครัฐของประเทศไทย ณ กรุงบูคาเรสต์ สาธารณรัฐโรมาเนีย ระหว่างวันที่ 6-8 ธ.ค. 2566 โดยการประชุมดังกล่าวเป็นการสร้างวิสัยทัศน์และพัฒนารายละเอียดของเข็มทิศการเรียนรู้ (Learning Compass 2030) ขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (The Organization for Economic Cooperation and Development: OECD) ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงภายหลังการระบาดโควิด-19 ให้ครอบคลุมและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเน้นประเด็นการใช้ปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) เพื่อส่งเสริมการศึกษาในโลกยุคใหม่ที่ซับซ้อน โดยบูรณาการเทคโนโลยี การจัดการเรียนการสอน การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ วิพากษ์ มิติคุณธรรม และจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี และปัญญาประดิษฐ์ การให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ และกระบวนการผลิตและพัฒนาครูที่เอื้อต่อการส่งเสริมการพัฒนาผู้เรียนในโลกที่ซับซ้อนผันผวนอย่างมีคุณภาพไปพร้อมกัน

ดร.อรรถพล กล่าวว่า สกศ. ในฐานะหน่วยงานด้านการศึกษาไทยและเข็มทิศการศึกษาของไทย ได้ร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางการศึกษาของประเทศในประเด็นต่าง ๆ อาทิ วิธีสร้างการคิดเชิงวิเคราะห์ วิพากษ์ ในสาระวิชาและหลักสูตรวิทยาศาสตร์และศิลปะ ทักษะจำเป็นในศตวรรษที่ 21 หลักสูตรการเรียนแบบ STEM/STEAM การใช้ Generative AI ในห้องเรียน การพัฒนาทักษะทางอารมณ์และสังคม การกำหนดเข็มทิศการศึกษาเพื่อการสอนที่มีคุณภาพในโลกแห่งความผันผวน ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น Generative AI การฟื้นฟูภายหลังการระบาดโควิด ภัยธรรมชาติที่เกิดจากมนุษย์ เป็นต้น โดยคำนึง 5 ปัจจัย ได้แก่ สภาพแวดล้อมเพื่อสร้างครูคุณภาพ ความอยู่ดีมีสุขของครูที่ส่งผลต่อนักเรียน ความรู้สำหรับครู ทักษะครู และทัศนคติคุณค่าความเป็นครู

ดร.อรรถพล กล่าวต่อไปว่า ข้อสังเกตสำคัญจากการประชุมนี้สามารถนำมาปรับใช้ในการดำเนินตามนโยบายการศึกษาได้ โดยต้องให้ความสำคัญในการพัฒนาในมิติต่างๆ ได้แก่ มิติคุณค่า อาทิ คุณธรรมจริยธรรมในการใช้ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ มิติการพัฒนาความเป็นมนุษย์ ทั้งในส่วนของทักษะที่จำเป็น เช่น ทักษะชีวิต ทักษะการทำงาน การมีภูมิคุ้มกันเพื่อเผชิญกับความผันผวนต่างๆ และการให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ด้านอารมณ์และสังคม โดยมีเป้าหมายปลายทางของการศึกษา คือ ความอยู่ดีมีสุขของผู้เรียน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้รับผิดชอบในการกำหนดนโยบายทางการศึกษาและการพัฒนาประเทศ จำเป็นต้องร่วมกันวิเคราะห์ให้ได้ว่าความอยู่ดีมีสุขของผู้เรียนและคนในชาติคืออะไรบ้าง จะต้องทำอย่างไรให้ผู้เรียนและคนในชาติสามารถไปถึงเป้าหมายของการอยู่ดีมีสุข ซึ่งรวมถึงการจัดสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาเหล่านั้นได้ ให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตและพัฒนาครู รวมไปถึงการแก้ปัญหาต่างๆ ของครูที่จะส่งผลถึงคุณภาพการเรียนรู้และการบรรลุความอยู่ดีมีสุขของผู้เรียน การสร้างความร่วมมือและเสริมพลังให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการเรียนรู้ของเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวและผู้ปกครอง เนื่องจากความเข้าใจและความร่วมมือของบุคคลแวดล้อมตัวเด็กจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ และการอยู่ดีมีสุขของผู้เรียนได้อย่างแท้จริง ผลการศึกษา ข้อค้นพบ ข้อมูลใหม่ๆ และตัวเลขสถิติขององค์กรระหว่างประเทศในการประชุม รวมถึงผลการทดสอบ PISA ที่เชื่อมโยงในบางประเด็นเข้ากับสาระสำคัญในการประชุมในครั้งนี้ โดยสามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงแก้ไขและปฏิรูปการศึกษาในเชิงสร้างสรรค์ต่อไปได้ อาจต้องมีการทบทวนเชิงนโยบายสำหรับการเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การระหว่างประเทศเพื่อได้ทราบข้อมูลสำคัญ การสนับสนุนด้านการปฏิรูปการศึกษา และการพัฒนาผู้เรียนได้อย่างเท่าทัน

ทั้งนี้ สกศ.จะดำเนินการศึกษาประเด็นเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของ OECD เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการจัดทำเสนอเชิงนโยบายทางการปฏิรูปการศึกษาของประเทศไทย และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนตามความถนัด พร้อมให้ความสำคัญต่อคุณภาพของครูทั้งประเทศ เพื่อช่วยให้นักเรียนได้รับคำแนะนำด้านเนื้อหาของวิชาการ และการเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาทั้งทางร่างกายและจิตใจต่อไปด้วย

-- advertisement --