-- advertisement --

นอกจากการอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่แล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญ คือ การเลือกโรงเรียนที่ดีให้กับลูก ซึ่งพ่อแม่ย่อมต้องการให้ลูกได้รับการศึกษาในสถาบันที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะโรงเรียนหลักสูตรนานาชาติที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ พ่อแม่ชาวไทยหลายครอบครัวต้องการปลูกฝังวิธีคิดแบบสากลให้ลูกภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย ทั้งยังสร้างเสริมความแข็งแกร่งด้านวิชาการรวมไปถึงภาษาที่สองหรือสาม เตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาขั้นสูงในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงโอกาสและอนาคตสำหรับหน้าที่การงานที่ได้เปรียบกว่า

ต้องเริ่มที่พ่อ แม่ คริสโตเฟอร์ ไรท์ แนะส่งลูกเรียนอินเตอร์ยังไงให้ภาษาเป๊ะ

กรมอนามัย ชี้ พ่อแม่อ่านนิทานกับลูก ช่วยพัฒนาสมอง-ทักษะการพูด

กรุงเทพฯ นับเป็นเมืองหลวงแห่งหนึ่งที่มีตัวเลือกของสถาบันการศึกษาหลักสูตรนานาชาติมากมายให้เลือก แต่ละที่ล้วนแล้วแต่มีความพิเศษและจุดแข็งที่แตกต่างกันไป ซึ่งนอกเหนือจากการหาข้อมูลจากเว็บไซต์ และดูรีวิวแล้ว การเดินทางไปดูโรงเรียน หรือ School Visit นั้นสำคัญมาก นอกเหนือจากสิ่งอำนวยความสะดวก หรือ facility ที่ดีแล้ว สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของลูกก็สำคัญไม่แพ้กัน บทความนี้จะช่วยรวบรวมเช็คลิสต์คำถามที่พ่อแม่ควรถาม เพื่อให้ได้ข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจ และแน่ใจว่าได้ปูทางสู่อนาคตที่ดีที่สุดให้กับลูก

1.โรงเรียนมีเครือข่ายระดับนานาชาติหรือความเชื่อมโยงกับสถาบันแม่ขนาดไหน

​เป็นสิ่งแรกๆ ที่ผู้ปกครองควรถาม เนื่องจากโรงเรียนนานาชาติที่ก่อตั้งในประเทศไทย มีทั้งแบบที่ก่อตั้งขึ้นโดยอิสระ และแบบโรงเรียนสาขาที่ถ่ายทอดระบบการเรียนการสอนมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอังกฤษและสหรัฐอเมริกา แน่นอนว่า โรงเรียนที่เป็นเครือข่ายจากต่างประเทศย่อมได้เปรียบในด้านความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงระดับสากล ยิ่งโรงเรียนแม่เก่าแก่ ได้รับการยอมรับและมีศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จเท่าไร ก็เป็นได้ไปว่าสาขาโรงเรียนในกรุงเทพฯ จะมีมาตรฐานในระดับเดียวกัน ซึ่งควรถามให้แน่ใจว่าโรงเรียนในประเทศไทยมีความเชื่อมโยงกับสถาบันแม่มากน้อยแค่ไหน มีโอกาสที่จะได้รับประโยชน์ทางการศึกษาในมาตรฐานเดียวกันหรือไม่

2.โรงเรียนมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยในระดับใด

โรงเรียนคือบ้านหลังที่สองที่ลูกใช้เวลาทุกวัน วันละหลาย ๆ ชั่วโมง ตั้งแต่เช้าจรดเย็น มาตรฐานความปลอดภัยรวมไปถึงสุขอนามัยและความสะอาดจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยมองข้าม โรงเรียนที่น่าเชื่อถือจะสามารถอธิบายได้ถึงระบบและมาตรฐานต่าง ๆ ที่มี รวมไปถึงแนวทางปฎิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อย เช่น อุบัติเหตุในชั้นเรียนหรือระหว่างทำกิจกรรม ไปจนถึงการเกิดโรคระบาด เหตุเพลิงไหม้ ภัยธรรมชาติ หรือแม้แต่การก่อวินาศกรรม

3. โรงเรียนมีวิธีการคัดเลือกครูอย่างไร

​นอกจากหลักสูตรแล้ว ครูผู้สอนก็นับเป็นส่วนสำคัญในการเรียนรู้ของลูก แต่ละโรงเรียนมีวิธีการคัดเลือกครูที่แตกต่างกันไป โรงเรียนนานาชาติที่ดีควรจะมีขั้นตอนการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันนอกเหนือจากใบสมัครและการสัมภาษณ์ รวมถึงการเดินทางไปประเมินทักษะการสอนที่โรงเรียนเดิมและพูดคุยกับบุคคลอ้างอิงอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่านอกจากครูท่านนั้นจะมีความรู้ความสามารถแล้วยังมีทัศนคิตที่ดีอีกด้วย

พ่อแม่มือใหม่ ต้องดู! รวม 10 ข้อควรถาม เฟ้นหาโรงเรียนอินเตอร์ฯให้ลูก

4. จะแน่ใจได้อย่างไรว่าสภาพแวดล้อมและการเรียนการสอนของโรงเรียนจะทำให้เด็กๆ มีความสุข

การศึกษาที่ดีไม่ควรเน้นให้เกิดเพียงความเป็นเลิศด้านวิชาการเท่านั้น แต่ยังควรสร้างความสุขและสร้างเสริมทักษะอื่น ๆ ของเด็กด้วย นอกจากสภาพแวดล้อมในห้องเรียนที่เหมาะสม และอุปกรณ์การสอนที่ครบครันแล้ว สิ่งที่พ่อแม่ควรตั้งคำถามคือ โรงเรียนมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจตามช่วงวัย เสริมสร้างทักษะการเข้าสังคมอย่างไรบ้าง มีแนวทางการปลูกฝังด้านสังคมและวัฒนธรรมในโรงเรียนอย่างไร เช่น มีนโยบายจัดการกับการล้อเลียนและพฤติกรรมรุนแรง (บูลลี่) อย่างไร มีครูและบุคลากรที่ได้รับการฝึกฝนมาเพื่อจัดการกับสถานการณ์เช่นนี้หรือไม่ และมีการเรียนการสอนหรืออบรมที่ถูกต้องเพื่อปลูกฝังพฤติกรรมและทัศนคติที่ดีให้กับเด็กตั้งแต่วัยเยาว์หรือไม่

5. หลักสูตรของโรงเรียนปูทางสำหรับการศึกษาขั้นสูงต่อไปอย่างไร

​สิ่งหนึ่งที่เป็นความคาดหวังของพ่อแม่คือลูกจะประสบความสำเร็จในระดับอุดมศึกษาในสถาบันที่ดี ดังนั้นโรงเรียนที่ดีควรมีการปูพื้นฐานความพร้อมสำหรับการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย เช่น หากต้องการให้ลูกได้ไปศึกษาต่อในประเทศอังกฤษ ผู้ปกครองควรถามว่าทางโรงเรียนมีโปรแกรม IGCSE หรือไม่ หรือมีการเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบวัดระดับ  A-Level ให้กับเด็กอย่างไร  มีการแนะแนวทางสำหรับการศึกษาต่ออย่างไร

6. มีจุดเด่นที่สร้างสรรค์แปลกใหม่และแตกต่างไปจากโรงเรียนอื่น ๆ อย่างไร

​นอกเหนือจากข้อมูลด้านสิ่งอำนวยความสะดวก (Facilities) สภาพแวดล้อมในการเรียน ความยิ่งใหญ่ของขนาดสนามฟุตบอล สระว่ายน้ำ โรงอาหาร โรงละคร ต่างๆ ซึ่งมีเหมือนกันแทบจะทุกโรงเรียนแล้ว ต้องไม่ลืมที่จะถามว่าจุดเด่นที่แตกต่างไปจากโรงเรียนอื่นๆ มีอะไรบ้าง ซึ่งแม้จะเป็นเพียงจุดเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจส่งผลสำคัญมากต่อการเรียนของลูก อาทิ ปัจจุบันโรงเรียนนานาชาติบางแห่งเริ่มสร้างความแตกต่างด้วยการนำเอาระบบที่เรียกว่า Harkness (ฮาร์คเนส) โดยบางวิชาจะให้เด็กๆ นั่งโต๊ะกลม ถกกันในหัวข้อที่กำหนด ไม่มีใครถูกผิด รับฟังความเห็นของทุกคนอย่างเปิดกว้าง และร่วมกันหาคำตอบ ไปด้วยกัน โดยไม่มีการชี้นำจากครู ซึ่งเป็นการเริ่มปลูกฝังทักษะแบบซีอีโอตั้งแต่ระดับประถม มีบางแห่งที่ให้ความสำคัญกับระบบดังกล่าวนี้มาก เช่น โรงเรียนนานาชาติ เวลลิงตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ ที่จะมีการสร้างห้องเรียน Harnkess ไว้โดยเฉพาะสำหรับเด็กแต่ละระดับ

7. โรงเรียนให้ความสำคัญกับกิจกรรมสร้างสรรค์เช่นศิลปะหรือกีฬามากน้อยแค่ไหน

​อย่างที่ไอน์สไตน์กล่าวไว้ว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” โรงเรียนที่มีกิจกรรมกระตุ้นและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อให้เกิดจินตนาการและพลังความคิดสร้างสรรค์จึงมักสามารถสร้างนักเรียนที่ประสบความสำเร็จ เมื่อไปเยี่ยมชมโรงเรียนอย่าลืมถามถึง Co-Curricular อื่นๆ ทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม ภาษา กีฬา ตลอดจน Facilities ที่จะช่วยเสริมการเรียนรู้ของเด็ก

พ่อแม่มือใหม่ ต้องดู! รวม 10 ข้อควรถาม เฟ้นหาโรงเรียนอินเตอร์ฯให้ลูก

8. พ่อแม่ผู้ปกครองจะมีส่วนร่วมต่อกระบวนการเรียนรู้ของเด็กได้อย่างไรบ้าง

​แน่นอนว่าผู้ปกครองอยากเข้าไปมีส่วนร่วมกับทุกกิจกรรมการเรียนรู้ของลูก สิ่งที่เราควรรู้ล่วงหน้าก็คือทางโรงเรียนเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนรับรู้ ให้แนวทาง หรือเสนอแนะวิธีในการจัดการด้านการศึกษามากน้อยแค่ไหน หรือมีการจัดตั้งสมาคมผู้ปกครองเพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนมุมมองและเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ของลูกร่วมกันโรงเรียนอย่างไรบ้าง เพราะแม้ทางโรงเรียนจะมีหลักสูตรที่แข็งแกร่ง แต่ผู้ปกครองรู้ดีที่สุดว่าลูกของเราต้องการอะไร ชอบการเรียนรู้แบบใด ซึ่งผู้ปกครองควรจะได้มีโอกาสในการนำเสนอต่อโรงเรียนได้

9. หากเกิดกรณีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกครั้ง โรงเรียนมีความพร้อมในด้านการเรียนแบบ virtual อย่างไรบ้าง

​การแพร่ระบาดของโควิด-19  ที่ผ่านมาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่ออนาคตของรูปแบบการเรียนการสอนของโรงเรียนโดยทั่วไป นอกเหนือจากมาตรการด้านความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดที่โรงเรียนจะต้องเตรียมความพร้อมอยู่เสมอแล้ว โรงเรียนที่ดีต้องสามารถตอบคำถามได้ว่าจะมีการจัดการเรียนการสอนเพื่อรองรับสถานการณ์อย่างไร จะทำอย่างไรให้การสอนแบบ Virtual นั้นมีประสิทธิภาพ สอนแบบ live หรือเป็น video มีการจัดตารางเรียนให้เหมาะกับช่วงอายุและพัฒนาการของเด็กแต่ละคนอย่างไร หากเกิดปัญหาระหว่างเรียนมีจะวิธีการแก้ไขอย่างไร มีการสร้างความสมดุลของเวลาที่เด็กอยู่หน้าจอและโอกาสในการเรียนรู้เชิงปฏิบัติได้อย่างไร รวมถึงประเมินประสิทธิภาพในการเรียนการสอนอย่างไร

10. ค่าใช้จ่ายและเทอมเป็นอย่างไร มีสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง

​โครงสร้างของค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดซับซ้อน จนพ่อแม่สับสนมาแล้วหลายราย ดังนั้นต้องถามและศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วนว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง อาทิ ค่าใช้จ่ายที่ขอคืนไม่ได้ เช่น ค่ายื่นใบสมัคร (Application Fee) ค่าทดสอบความรู้ (Assessment Fee) ค่าแรกเข้า (Registration Fee) ค่าใช้จ่ายที่ขอคืนได้ เช่น  ค่ามัดจำ (Refundable Deposit) ที่จะจ่ายคืนจบการศึกษาหรือลาออก ส่วนค่าเทอม (Tuition Fees) จะมีทั้งจ่ายเป็นรายเทอมหรือรายปี ต้องรู้ว่าทางโรงเรียนมีกี่เทอม มีการปรับเพิ่มค่าเทอมตามระยะเวลาหรือไม่ รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียมรายปี (Annual Fee) ค่าหนังสือ (Book Fee) ค่าอาหารและของว่าง (Lunch and Snack Fee) ค่าค่ายฤดูร้อน (Summer Camp) ค่าทัศนศึกษา (Field Trip) เป็นต้น

​อีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญคือการลองสอบถามเรื่องส่วนลดหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติที่เพิ่งเปิดใหม่มักจะมีส่วนลดเพื่อดึงดูดผู้ปกครอง อาทิ โรงเรียนนานาชาติ เวลลิงตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ ที่ตอนนี้กำลังมีข้อเสนอพิเศษส่วนลด 20% นานถึง 5 ปี และให้สิทธิ์ส่วนลดเดียวกันสำหรับในครอบครัวด้วย ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการพิจารณา

พ่อแม่มือใหม่ ต้องดู! รวม 10 ข้อควรถาม เฟ้นหาโรงเรียนอินเตอร์ฯให้ลูก

ขอขอบคุณภาพ : โรงเรียนนานาชาติ เวลลิงตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ

-- advertisement --