หน้าแรก ข่าวการศึกษา ร.ร.ดัง กทม.พร้อมรับม.1/ม.4 เล็งกระจายสนามสอบกันกระจุกตัว

ร.ร.ดัง กทม.พร้อมรับม.1/ม.4 เล็งกระจายสนามสอบกันกระจุกตัว

-- advertisement --

ร.ร.ดัง กทม.พร้อมรับม.1/ม.4 เล็งกระจายสนามสอบกันกระจุกตัว

นายสมใจ วิเศษทักษิณ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต1 กทม. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสพม.เขต 1 กทม. เตรียมพร้อมจัดสอบรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยม. 1 สมัครระหว่างวันที่ 24-28 เมษายน สอบคัดเลือกวันที่ 1 พฤษภาคม ประกาศผลวันที่ 5 พฤษภาคม มอบตัววันที่ 8 พฤษภาคม มัธยมศึกษาปีที่ 4 สมัครวันที่ 24-28 เมษายน สอบคัดเลือกวันที่ 2 พฤษภาคม ประกาศผลวันที่ 6 พฤษภาคม มอบตัววันที่ 9 พฤษภาคม โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กทม. โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภูมิภาค ม.4 รับสมัครวันที่ 20-24 กุมภาพันธ์ สอบคัดเลือก 6 มีนาคม ประกาศผล 15 มีนาคม มอบตัววันที่ 18 มีนาคม โดยจะดูจัดสอบ ให้เป็นไปตามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มีการเว้นระยะห่าง ฉีดยาฆ่าเชื้อ ส่วนสนามสอบนั้น อาจจะขอใช้พื้นที่โรงเรียนที่ไม่มีการสอน หรือโรงเรียนที่ไม่ใช่โรงเรียนแข่งขันสูง เป็นสนามสอบครั้งนี้

นายสมใจ กล่าว ดังนั้นการสอบจะกระจายไปยังโรงเรียนต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เด็กกระจุกตัว แต่ต้องสอบวัน เวลาเดียวกัน ใช้ข้อสอบชุดเดียวกัน เพื่อไม่ให้มีการได้เปรียบเสียเปรียบ ส่วนข้อสอบนั้น ขึ้นอยู่กับโรงเรียน โดยต้องมีการหารือร่วมกันกรรมการสถานศึกษา และผู้เกี่ยวข้อง ส่วนโรงเรียนเตรียมอุดมฯ ซึ่งเดิมจะสอบที่เมืองทองธานี นั้น ยังยืนยันสอบรับสมัคร และสอบตามวัน เวลาเดิม แต่จะกระจายการสอบไปยังสนามสอบภูมิภาคต่าง ๆ ส่วนนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด อย่างจังหวัดสมุทรสาครนั้น ก็จะจัดข้อสอบลงไปในพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวก โดยนักเรียนไม่ต้องเดินทางข้ามจังหวัดเพื่อมาสอบ

“ทางเขตพื้นที่ฯ ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่เป็นระยะ ซึ่งเท่าที่ดู สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ ไม่น่าจะเป็นอุปสรรคในการจัดสอบ ส่วนข้อสอบต้องปรับให้ง่ายขึ้นหรือไม่ เนื่องจากนักเรียนอาจไม่ได้รับความรู้เต็มที่เพราะเรียนผ่านระบบออนไลน์นั้น คิดว่า โรงเรียนแต่ละแห่งจะพิจารณาออกข้อสอบอย่างเหมาะสม ส่วนตัวมองว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหา แม้ปีการศึกษานี้เด็กจะเรียนออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ แต่เท่าที่ดู ครูพยายามให้เด็กได้รับความรู้อย่างเต็มที่ ไม่ต่างกับการเรียนในห้องเรียน และขณะนี้บางโรงเรียนได้เปิดสอนแล้ว ภายใต้มาตรการเฝ้าระวังตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ขณะที่บางแห่ง ให้เรียนแบบแบ่งกลุ่มสลับกัน ทั้งแบบออนไลน์ และออนไซต์ ” นายสมใจ กล่าว

QR Code LINE @Matichon





LINE @Matichon

-- advertisement --