แอมเนสตี – องค์กรสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี อินเตอร์เนชันแนล ออกรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (4 ส.ค.) ระบุว่า กองทัพยูเครนทำให้พลเรือนตกอยู่ในอันตรายด้วยการเข้าไปตั้งฐานที่มั่นในบริเวณที่พักอาศัยของพลเรือน รวมถึงโรงเรียนและโรงพยาบาล ทำให้พลเรือนกลายเป็นโล่มนุษย์ ตกเป็นเป้าการโจมตีทางทหาร ซึ่งถือว่าผิดกฏหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
ในช่วงเดือนเมษายน – กรกฏาคม นักวิจัยของของแอมเนสตี ได้ใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการเข้าไปสืบสวนการโจมตีของรัสเซียในพื้นที่คาร์คิฟ ดอนบาส และมิโคลาเยฟ โดยตรวจสอบบริเวณที่ถูกโจมตี สัมภาษณ์ผู้รอดชีวิต ผู้เห็นเหตุการณ์ รวมถึงญาติของผู้เสียชีวิตจากการโจมตี อีกทั้งยังวิเคราะห์อาวุธและการรับรู้จากระยะไกล (Remote sensing)
จากการสืบสวนเหล่านี้ นักวิจัยพบหลักฐานว่ากองทัพยูเครนได้ทำการโจมตีจากในย่านที่พักอาศัย รวมถึงตั้งฐานที่มั่นในอาคารของพลเรือน ในเมืองและหมู่บ้าน 19 แห่ง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว สถานที่เหล่านั้นอยู่ห่างจากแนวหน้าเพียงไม่กี่กิโลเมตร กองทัพยูเครนสามารถเลือกที่จะทำให้พลเรือนไม่ตกอยู่ในอันตรายด้วยการตั้งฐานที่มั่นในป่าหรือในฐานทัพทางทหาร หรือสิ่งปลูกสร้างอื่นที่ห่างจากย่านพักอาศัยของพลเรือนได้ แต่กลับไม่มีการส่งเสริมหรือขอให้พลเรือนอพยพไปยังอาคารอื่น และยังล้มเหลวในการปกป้องพลเรือน
ผู้รอดชีวิตและพยานผู้เห็นเหตุการณ์ จากการถูกรัสเซียโจมตีในพื้นที่ดอนบาส คาร์คิฟ และมิโคลาเยฟ ได้บอกกับแอมเนสตีว่า กองทัพยูเครนได้ปฏิบัติภารกิจโจมตีศัตรูใกล้กับบ้านเรือนของพวกเขา ทำให้บริเวณนั้นถูกโจมตีโต้ตอบกลับมาจากกองทัพรัสเซีย ซึ่งข้อมูลนี้นักวิจัยของแอมเนสตีได้รับการบอกตรงกันจากพลเรือนในหลายพื้นที่
กองทัพยูเครนมักจะตั้งฐานที่มั่นตามโรงเรียนในเมืองและหมู่บ้านต่างๆ ในดอนบาสและมิโคลาเยฟ แม้ว่าโรงเรียนจะปิดชั่วคราวนับตั้งแต่เริ่มมีการสู้รบ แต่โรงเรียนส่วนใหญ่มักตั้งอยู่ในย่านที่พักอาศัย ซึ่งมีประชาชนหนาแน่น
จากการไปตรวจเยี่ยมโรงเรียน 29 แห่ง นักวิจัยของแอมเนสตีพบว่ามี 22 แห่งที่พบหลักฐานการตั้งฐานที่มั่นและการทำกิจกรรมทางทหาร อาทิ พาหนะทางทหาร เสบียง กระสุน ฯลฯ
กองทัพรัสเซียได้โจมตีโรงเรียนที่ถูกกองทัพยูเครนใช้เป็นฐานที่มั่น หลังจากถูกถล่มโรงเรียนไปแล้ว ทหารยูเครนก็จะย้ายไปยังโรงเรียนแห่งใหม่ที่อยู่ใกล้ๆ ทำให้ย่านที่พักอาศัยบริเวณนั้นตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะโดนโจมตี แบบที่โรงเรียนเดิมเคยโดน
แอกเนส คัลลามาร์ด เลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี อินเตอร์เนชันแนล ระบุว่า รัฐบาลยูเครนควรจะทำให้แน่ใจว่าทหารยูเครนตั้งฐานที่มั่นห่างจากย่านที่พักอาศัย หรือไม่ก็ควรจะอพยพพลเรือนออกจากบริเวณพื้นที่สู้รบ กองทัพไม่ควรใช้โรงพยาบาลเป็นฐานที่มั่นในการสู้รบ ส่วนโรงเรียนและบ้านของพลเรือน ควรเป็นตัวเลือกสุดท้าย ใช้เมื่อไม่มีหนทางอื่นแล้วจริงๆ
รายงานของแอมเนสตี
https://www.amnesty.org/en/latest/news/2022/08/ukraine-ukrainian-fighting-tactics-endanger-civilians/
หลวงพี่น้ำฝน รับทราบเรื่องน้องเสียงแคนจากกัน จอมพลัง บอกพร้อมรับมาดูแลส่งเสียให้เรียนพร้อมผลักดันด้านดนตรีให้เป็นศิลปินในอนาคตได้ ส่วนพ่อประสบปัญหาด้านการเงินต้องแยกประเด็นตอนนี้ เราต้องช่วยปัญหาของเด็กก่อน หากพ่อลูกพร้อมมีที่อยู่ในวัดส่งเสริมการศึกษาและผลักดันด้านดนตรีอย่างมีระบบ แต่ต้องมีการเข้ามาหารือกันอย่างจริงจังเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริง สำหรับการช่วยเหลือ วันที่ 2 พฤษภาคม 67 จากกรณีผู้ใช้สื่อโซเชียล Tiktok มีการโพสต์คลิป น้องเสียงแคน ใส่ชุดนักเรียนนั่งเล่นเปียโน อยู่ในตลาดนัดในย่านรามอินทรา โดยมีความสะเทือนใจสำหรับผู้ที่พบป้ายข้อความ…
สพฐ. กำชับโรงเรียนช่วยเหลือผู้ปกครองผ่อนปรนค่าบำรุงการศึกษา ย้ำเด็กที่เรียนจบต้องได้เอกสารการจบทุกคน วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย รองโฆษกสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองโฆษก สพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.)…