กรรมการอิสระฯ ค้านตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา

หลังการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา อย่างกว้างขวาง เสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ชี้จำเป็นต้องมีกระทรวงการอุดมศึกษา

ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการอิสระฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมได้มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การอุดมศึกษา โดยยังไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด เพียงแต่มีข้อเสนอแนะบางประเด็น โดยเฉพาะต้องการให้มีความหลากหลาย และไม่มีการควบคุมกำกับเรื่องของเสรีภาพทางวิชาการ และความเป็นอิสระในการบริหาร ซึ่งเป็นปัจจัยหลัก ขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยทั้งหลายยังต้องทำหน้าที่ในการเป็นมหาวิทยาลัยที่รัฐลงทุน จึงต้องมีข้อกำหนดต่าง ๆ ในการกำกับ แต่จะทำอย่างไรในการลดการกำกับให้น้อยที่สุด เพราะหลายคนมองว่าการกำกับยังรุนแรงเกินไป เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายกรณีที่ไม่เหมาะสมจึงจำเป็นต้องกำกับ แต่ก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับส่วนน้อย แต่หากยิ่งพยายามไปกำกับปัญหาที่เกิดกับส่วนน้อย ส่วนใหญ่ก็จะเดือดร้อนเพราะไม่มีความคล่องตัวในการบริหารงานให้มีลักษณะที่แตกต่างและหลากหลายได้ ซึ่งจะเป็นการสร้างกลไกในการกำกับมากเกินไป จนอาจทำให้ความหลากหลายหรือความมีเป้าหมายเฉพาะที่แตกต่างกันตามการเกิดของแต่ละมหาวิทยาลัยเป็นไปได้ยาก ดังนั้นจะต้องนำเรื่องนี้เข้าหารือรายละเอียดในที่ประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาร่า งพ.ร.บ.การอุดมศึกษา ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ให้สมบูรณ์ต่อไป

“เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนมีคณะกรรมการอิสระฯ ซึ่งตามขั้นตอนเมื่อดำเนินการมาแล้วจะต้องส่งให้คณะกรรมการอิสระพิจารณา คณะกรรมการอิสระฯ จึงเพิ่มเติมประเด็นส่วนสำคัญ เรื่องการมีงานวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งไม่ใช่คณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ที่ผลิตคน แต่เป็นเรื่องการผลิตปัญญาความรู้ อย่างไรก็ตามคณะกรรมการอิสระฯรู้สึกว่าร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวแกว่งแรงเกินไป จึงเห็นควรต้องปรับ แต่จะไปในทิศทางใดยังไม่มีคำตอบสุดท้าย ส่วนเรื่องการจะมีพ.ร.บ.การอุดมศึกษา หรือจะตั้งกระทรวงการอุดมศึกษาหรือไม่นั้นเป็นเรื่องของรัฐบาล”ศ.นพ.จรัส กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการอิสระฯ ที่ประชุมได้มีการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา อย่างกว้างขวาง โดยมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา แต่เสียงส่วนใหญ่ซึ่งไม่ได้เป็นคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา ไม่เห็นด้วย โดยมองว่าไม่มีความจำเป็นต้องมีกระทรวงการอุดมศึกษา จึงเห็นควรรวบรวมความเห็นส่งกลับไปให้คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯพิจารณาเสนอรัฐบาล