“พิษณุ-สมมาตร์-สันติ” ใครจะเป็นตัวจริงเลขาธิการสกสค.

ส่งชื่อ “พิษณุ-สมมาตร์-สันติ” เข้าบอร์ด สกสค.เลือกตัวจริง 1 มิ.ย.นี้ ยันโปร่งใส บริสุทธิ์ยุติธรรมไม่มีล็อกสเปกแน่นอน

วันที่ 31 พ.ค.60 นายประเสริฐ บุญเรือง รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ( ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนได้รับมอบหมายจาก ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัด ศธ.ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรอง ตรวจสอบและคัดเลือกบุคคลบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นเลขาธิการคุรุสภา และเลขาธิการคณะกรรมสวัสดิการสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ให้เป็นประธานในการแสดงวิสัยทัศน์ ของผู้ได้รับการเสนอชื่อ เป็นเลขาธิการคุรุสภา และเลขาธิการสกสค.

โดยในส่วนของตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา มีผู้ได้รับการเสนอชื่อและ มีคุณสมบัติครบมาแสดงวิสัยทัศน์ 3 รายคือ นายกมล ศิริบรรณ อดีตรองปลัด ศธ., นายเพิ่ม หลวงแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนหนองเรือ จ.ขอนแก่น และนายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.)ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สกสค. ที่มีคุณสมบัติครบ มาแสดงวิสัยทัศน์ 3 รายเช่นกัน คือ นายพิษณุ ตุลสุข รองปลัด ศธ.และปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค., นายสมมาตร์ มีศิลป์ อดีตผู้อำนวยการองค์การค้าของสกสค. และสันติ รุ่งสมัย อดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.)เพชรบุรี เขต 2

ทั้งนี้คณะกรรมการกลั่นกรองฯ ให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าแสดงวิสัยทัศน์ คนละ 20 นาที โดยเรียงลำดับตามตัวอักษร ซึ่งผู้แสดงวิสัยทัศน์ ทั้ง 2 ตำแหน่งถือว่า มีคุณสมบัติตามที่กำหนด โดยในการแสดงวิสัยทัศน์คณะกรรมการกลั่นกรอง ได้มีการให้คะแนน ซึ่งผู้ได้รับการเสนอถือทั้ง 2 ตำแหน่ง ได้คะแนนอยู่ในเกณฑ์ผ่าน ดังนั้นคณะกรรมการกลั่นกรอง จะเสนอรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อและผ่านการแสดงวิสัยทัศน์ในตำแหน่งเลขาธิการสกสค. และเลขาธิการคุรุสภา ให้ที่ประชุมคณะกรรมการสกสค. และที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ที่มี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานพิจารณาคัดเลือกในวันที่ 1 มิ.ย.60 นี้

“ในการประชุมบอร์ด สกสค.และคุรุสภา วันที่ 1 มิ.ย.นี้ คณะกรรมการกลั่นกรองฯ จะเสนอชื่อผู้ผ่านการแสดงวิสัยทัศน์ทั้ง 2 ตำแหน่ง ให้คณะกรรมการทั้ง 2 ชุด พิจารณาเลือกผู้เหมาะสม ตำแหน่งละ 1 คน โดยการเสนอชื่อจะเรียงลำดับตามตัวอักษร การคัดเลือกจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบอร์ดทั้ง 2 ชุด กรรมการแต่ละคนจะลงคะแนนลับในการคัดเลือกผู้เหมาะสมแต่ละตำแหน่ง อย่างไรก็ตามในส่วนของนายสมมาตร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ยังถือว่ามีคุณสมบัติครบ เพราะคดีความยังไม่ถือว่าสิ้นสุด การตัดสินจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบอร์ดเป็นสำคัญ โดยไม่นำคะแนนการแสดงวิสัยทัศน์มาร่วมพิจารณา”

นายประเสริฐ กล่าวและว่า ยืนยันการการสรรหาผู้เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา และเลขาธิการ สกสค.ครั้งนี้เป็นไปอย่างโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรมไม่มีการล็อกสเปกแน่นอน