เปิดใจลูกยอดกตัญญูแห่งอาชีวศึกษา ปี 61

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมยินดีกับนายอานนท์ กล้าหาญ นักเรียนชั้น ปวช.3 วิทยาลัยการอาชีพโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด และนางมณี วรรณสอน รองผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพเวียงสระ วิทยาลัยการอาชีพเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ได้รับคัดเลือกเป็นลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2561 จากสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

โดยจะเข้าเฝ้าและรับประทานโล่เกียรติคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2561 เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในวันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม 2561 ณ โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ

นายอานนท์ กล้าหาญ นักเรียนชั้นปวช.3 วิทยาลัยการอาชีพโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ดว่า อาศัยอยู่กับยาย แม่ น้องอีก 2 คน หลานๆ 4 คน อยู่รวมกัน9ชีวิต ในบ้านมีเพียงตนที่เป็นพี่ใหญ่เป็นกำลังหลักของครอบครัวและเป็นคนเดียวที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เพราะยายและแม่กับน้องๆ ทุกคนจะมีโรคประจำตัวต้องไปพบหมอ

ยายกับแม่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ภูมิแพ้และเบาหวานต้องกินยาและไปพบหมอตามนัดอย่างน้อยเดือนละครั้ง บ้านที่อยู่เป็นเพิงพักปลูกอยู่ในสวนของญาติ และญาติก็อยากจะให้ย้ายออก ทำให้แม่เครียดมาก ที่ผ่านมาแม่เคยเก็บเงินจะซื้อที่ปลูกบ้าน แต่ก็ต้องนำเงินมารักษาตาซึ่งป่วยหนักและเสียชีวิต

รายได้หลักของครอบครัวจึงมาจากการทำงาน น้องอานนท์จึงต้องดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้เจ็บป่วย และบริหารเวลาเรียน จนผลการเรียนดีเกรดสูงถึง 4.00 และว่าที่ได้ดีเพราะแม่ ไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

ไม่เพียงเรื่องเรียน น้องอานนท์ ยังมีความสามารถพิเศษในการเป็นพิธีกร นักร้อง เล่านิทาน จนได้เป็นตัวแทนแข่งขันทักษะระดับจังหวัด ระดับภาค ระดับชาติและได้รับรางวัลบ่อยครั้ง เช่น รางวัลรองชนะเลิศเล่านิทานพื้นบ้านระดับชาติ รางวัลชนะเลิศระเบียบแถวระดับชาติ โล่เกียรติยศผลการเรียนดี และยังได้ทำหน้าที่ทูตวัฒนธรรมร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานและเผยแพร่วัฒนธรรมที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ขณะที่นางมณี วรรณสอน รองผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพเวียงสระ วิทยาลัยการอาชีพเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่ามีพี่น้อง 5 คน โดยเป็นคนที่ 3 วัยเด็กสอบไล่ได้ที่ 1 ทุกปี ทำให้แม่มีความสุขทุกครั้งเมื่อได้เห็นผลการเรียน ตั้งแต่เรียนระดับประถม มัธยม ทั้งยังช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ช่วยทำงานหารายได้เองเพื่อเป็นทุนเรียนต่อ

กระทั่งจบปริญญาตรี จากสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ และสอบเข้ารับราชการในตำแหน่ง อาจารย์ 1 ระดับ 3 ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสตูล ซึ่งอยู่ไกลบ้านไม่สะดวกในการดูแลพ่อแม่ จึงขอย้ายมาปฏิบัติงานที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครศรีธรรมราช อยู่ใกล้บ้านจะได้มีโอกาสดูแลพ่อแม่ได้เต็มที่

จากนั้นได้ลาศึกษาต่อระดับ ปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน จนจบและกลับมาทำงานต่อที่เดิม และมุ่งมั่นเข้าศึกษาต่อหลักสูตร ป.บัณฑิต สาขาบริหารการศึกษาจนจบ สอบขึ้นตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จนปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ วิทยาลัยการอาชีพเวียงสระ ซึ่งเป็นวิทยาลัยที่อยู่ใกล้บ้านมากที่สุดได้มีโอกาสดูแลพ่อแม่ซึ่งอายุมากและมีหลายโรคประจำตัวอย่างใกล้ชิด