-- advertisement --

โควิดฯยังพุ่ง “พิษณุโลก” เจออีก 13 สะสมรวม 19 ห้ามขายเหล้า-จัดกิจกรรมรวมคนหมู่มาก ผู้ว่าฯสั่งเข้มมาตรการป้องกัน คนเดินทางเข้าจังหวัดต้องกักตัว     

เมื่อเวลา 20.40 น. วันที่ 10 เม.ย.64 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นพ.ไกรสุข เพชระบูรณิน นายแพทย์สาธารณสุข จ.พิษณุโลก นพ.สุชาติ พรเจริญพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช ร่วมกันแถลงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ว่า ขณะนี้ได้รับการยืนยันผู้ป่วย มีจำนวน 19 ราย การระบาดรอบนี้เริ่มจากวันที่ 7 เม.ย.64 พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 4 ราย เป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก วันที่ 8 เม.ย.64 พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 2 ราย รวม 6 ราย และวันนี้ 10 เม.ย.64 มีผู้ป่วยเพิ่ม 13 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสมในระลอกที่ 3 จำนวน 19 ราย 

นายรณชัย ผู้ว่าฯพิษณุโลก กล่าวว่า วันนี้ได้ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดพิษณุโลก ได้ออกมาตรการทั้งทางสังคมและมาตรการทางสาธารณสุข เพื่อลดการแพร่ระบาดโควิดฯ ไม่ให้ผู้ติดเชื้อแพร่กระจายไปยังบุคคลอื่น ทั้งยังได้วางมาตรการป้องกันการติดเชื้อควบคู่ไปกับการป้องกันการแพร่ระบาด ครั้งนี้มาตรการจะเข้มข้นกว่าระลอก 1 แต่ยังไม่ล็อกดาวน์ สำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดต้องกักตัว 14 วันที่บ้านพัก หากจะเดินทางกลับก่อนครบ 14 วัน ก็สามารถเดินทางกลับได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังได้มีประกาศห้ามจำหน่ายสุรา เริ่มตั้งแต่วันที่ 11-18 เม.ย.64 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ งดกิจกรรมการรวมคนหมู่มาก ร้านอาหารทั่วไปนั่งรับประทานได้ โดยต้องปิดเวลา 21.00 น. ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ให้เฉพาะ Take Home เท่านั้น สถานศึกษาให้งดการเรียนการสอนตามปกติถึงวันที่ 30 เม.ย.64 ให้ปรับเปลี่ยนเป็นการสอนทางออนไลน์ แต่สถานบันการศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในช่วงของการปิดเทอมอยู่แล้ว การกวดวิชาให้เฉพาะออนไลน์เท่านั้น สถานบันเทิงสถานบริการปิดเป็นเวลา 14 วัน เริ่มจากวันที่ 11 เม.ย.64 

ด้าน นพ.ไกรสุข  นายแพทย์สาธารณสุข จ.พิษณุโลก กล่าวว่า การระบาดระลอก 3 นี้เร็วกว่าการระบาดและรอบที่ 1 และรอบที่ 2 ซึ่งจากการระบาดและรอบที่ 2 นั้น พบผู้ป่วยเพียงรายเดียว และเป็นการระบาดที่มาจากกลุ่มคัสเตอร์ในแรงงานต่างด้าว สถานที่การพนัน ส่วนการระบาดรอบที่ 3 นี้มีกลุ่มคัตเตอร์มาจากสถานบันเทิง ผู้เที่ยวสถานบันเทิงที่มาจากกรุงเทพฯ รายที่ 1-4 เป็นกลุ่มเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ที่ติดเชื้อมาจากกรุงเทพฯ ขณะนี้ได้มีมาตรการแยกกลุ่มเสี่ยงสูงต่ำแล้ว และในวันพรุ่งนี้ (11 เม.ย.) จะมีมาตรการคัดกรองเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง โดยนำรถพระราชทานไปตรวจหาเชื้อโควิดฯ การระบาดครั้งนี้ค่อนข้างรวดเร็ว ทำให้การป้องกันยากลำบาก การติดตามยากลำบาก ไทม์ไลน์ต้องใช้เวลาสอบสวนโรคให้ชัดเจนละเอียดรอบคอบก่อน เพื่อให้ชุมชนได้ระมัดระวัง ขณะนี้ในด้านการเตรียมความพร้อมทางสาธารณสุข ได้เตรียมทั้งยาเวชภัณฑ์ บุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลสนาม ไว้รองรับสำหรับการระบาดวงกว้างแล้ว 

ด้าน นพ.สุชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยทั้ง 19 รายยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ได้แก่โรงพยาบาลพุทธชินราช 13 ราย โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร 5 ราย และโรงพยาบาลวังทอง 1 ราย ผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง ซึ่งจะต้องรักษาอยู่ในโรงพยาบาลให้ครบ 14 วัน และตรวจหาเชื้ออีกครั้ง สำหรับมาตรการในการควบคุมนั้น มีทั้งมาตรการทางสังคมเพื่อลดกันแพร่กระจายของเชื้อ มาตรการทางสาธารณสุขในการค้นหาผู้ป่วย และมาตรการทางการแพทย์ในการควบคุมโรค อาทิเช่น เมื่อวานนี้ รพ.พุทธชินราช สามารถตรวจหาเชื้อได้ 90 ราย วันนี้ตรวจผู้ป่วยหาเชื้อ 150 ราย ซึ่งผู้มาตรวจไม่มีอาการ 60-70 % เจอเชื้อในโพรงจมูก เชื้อปรับตัวทำให้ผู้ป่วยแสดงอาการน้อย และในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่มีโอกาสติดเชื้อประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังมีการตรวจหาเชื้อจากสถานที่ต่าง ๆอีก ซึ่งเพียงพอในการค้นหาผู้ป่วย ได้แก่ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ศูนย์ควบคุมโรคที่ 9 ขณะที่โรงพยาบาลสนามนั้น ถ้าหากมีการแพร่ระบาดในวงกว้าง โรงพยาบาลพุทธชินราชมีห้องรองรับผู้ป่วยหนักเพียงพอ สถานที่คือที่บึงแก่งใหญ่สามารถรองรับได้อีก 80 ราย