เป็นควันหลงลอยกระทง ที่อิ่มเอมและอบอวลไปด้วยมิตรภาพข้ามชาติ
อ.อมรรัตน์ จิรันดร ประธานโปรแกรมวิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) กล่าวว่า คณะฯได้จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย-นิวซีแลนด์ : กระทงไทย Go อินเตอร์ ให้นักศึกษาแลกเปลี่ยนจากนิวซีแลนด์ 6 คน ได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนศิลปะของทั้งสองประเทศ หัดทำกระทงร่วมกัน และสวมชุดไทย เป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมอันดีงามของไทยให้ชาวต่างชาติได้เรียนรู้และเข้าใจ
ทั้งนี้ นักศึกษา มรภ.สงขลา ไดัจัดการแสดงชุด “ภูมิใจใต้” สะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมภาคใต้ที่มีความเป็นพหุวัฒนธรรม หลากหลายทางเชื้อชาติประชากรทั้ง คนจีน ไทยพุทธ และมุสลิม แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
อ.ณับปราณ เตียวสกุล รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์กล่าวว่า สังคมไทยยุคปัจจุบันมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีคนจากหลากหลายเชื้อชาติเข้ามาอยู่อาศัย ประกอบธุรกิจ หรือศึกษาในประเทศไทย ด้วยความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่งผลให้มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างไร้พรมแดน ปัจจัยเหล่านี้ก่อให้เกิดการเผยแพร่และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ซึ่งมีทั้งด้านบวกและด้านลบ
ด้านบวกคือการผูกมิตรไมตรีและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนจากหลากหลายประเทศ ด้านลบคือความไม่เข้าใจซึ่งกันและกันในหลายมิติ อันเนื่องมาจากรากฐานทางวัฒนธรรมที่ต่างกัน การที่จะส่งเสริมด้านบวกและปรับทัศนคติที่เป็นเชิงลบระหว่างชาวไทยและต่างชาติให้เข้าใจซึ่งกันและกันมากยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องหาหนทางนำผู้คนจากหลากหลายวัฒนธรรมมาอยู่ร่วมกันเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรม วิธีคิดและพฤติกรรมของกันและกัน
Lata’ I Francisco To’a นักศึกษาสาวจากนิวซีแลนด์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักหรือได้ยินชื่อประเพณีลอยกระทงมาก่อน แต่ชอบประดิดประดอย จึงมีความสุขและชอบมากที่ได้ทำกระทง เคยเห็นชุดไทยจากโทรทัศน์รู้สึกว่าสวยงาม จึงดีใจมากที่มีโอกาสใส่ชุดไทย จะนำความน่าสนใจของประเพณีลอยกระทงไปเล่าให้เพื่อนที่นิวซีแลนด์ ฟัง สิ่งที่ประทับใจในเมืองไทยก็คือรอยยิ้ม
ขณะที่ ซาฟาวี อีซอ นักศึกษาโปรแกรมวิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์ฯ มรภ.สงขลา กล่าวว่า ไม่เพียงประเพณีลอยกระทงของไทยจะถูกนำไปเล่าต่อยังประเทศนิวซีแลนด์แล้ว ทำให้เชื่อว่าวัฒนธรรมไม่ใช่ตัวแบ่งกั้นความเป็นเพื่อนมนุษย์ ยังก่อให้เกิดความเข้าใจ อันเป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและมีความสุข
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ