กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์แลมบ์ดารายแรกของประเทศ ขณะยอดผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่สูงรองจากสถิติสูงสุดที่เกือบ 15,000 ราย
แฟ้มภาพ ชาวฟิลิปปินส์ต่อแถวรอฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้านนอกศูนย์ฉีดวัคซีนแห่งหนึ่งในเมืองลาสปีนาสของมหานครมะนิลา เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564 (Photo by Ezra Acayan/Getty Images)
คำแถลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคมกล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นหญิงอายุ 35 ปีซึ่งปัจจุบันหายแล้ว เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า เธอเป็นชาวฟิลิปปินส์ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศหรือไม่
องค์การอนามัยโลกจัดให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์แลมบ์ดาเป็น “สายพันธุ์ที่น่าสนใจ” โดยพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์นี้ครั้งแรกที่เปรูเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ผลการศึกษาในห้องแล็บเผย ให้เห็นว่าไวรัสสายพันธุ์นี้มีการกลายพันธุ์ที่สามารถต้านทานแอนติบอดีที่ได้จากการฉีดวัคซีน
รอยเตอร์รายงานอ้างคำแถลงของกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ด้วยว่า ฟิลิปปินส์ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันอาทิตย์อีก 14,749 ราย เป็นสถิติสูงอันดับที่ 2 ของประเทศ โดยยอดผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ที่ 1.74 ล้านราย นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 270 ราย เป็นยอดสูงอันดับที่ 3 ของประเทศ ยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 30,340 รายแล้ว
รอยเตอร์รายงานว่า ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ก่อนหน้าการตรวจทานซ้ำโดยผู้รู้ในระดับเดียวกัน คณะนักวิจัยกล่าวเตือนไว้ว่า ด้วยเหตุที่แลมบ์ดาถูกจัดให้เป็น “สายพันธุ์ที่น่าสนใจ” แทนที่ “สายพันธุ์ที่น่ากังวล” ผู้คนจึงอาจไม่ได้ตระหนักว่าสายพันธุ์นี้ยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง
แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าแลมบ์ดาอันตรายกว่าสายพันธุ์เดลตาที่กำลังคุกคามประชากรในหลายประเทศขณะนี้หรือไม่ แต่เคอิ ซาโตะ นักวิจัยอาวุโสของมหาวิทยาลัยโตเกียวเชื่อว่า แลมบ์ดามีโอกาสเป็นภัยคุกคามต่อสังคมมนุษย์ได้
กระนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่ออีกหลายคนบอกกับรอยเตอร์ว่า สายพันธุ์นี้อาจกำลังซาลง ดร.เอริก โตปอล อาจารย์ด้านแพทยศาสตร์ระดับโมเลกุลจากแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อแลมบ์ดารายใหม่ที่รายงานต่อฐานข้อมูลโควิด GISAID กำลังลดลง เป็นสัญญาณว่าสายพันธุ์นี้กำลังลดน้อยลง
ดร.วิลเลียม แชฟฟ์เนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากมหาวิทยาลัยศูนย์การแพทย์แวนเดอร์บิลต์ กล่าวว่า ในการหารือกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคไม่นานมานี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อเคยกล่าวกันว่า ดูเหมือนว่าแลมบ์ดาจะไม่ได้ทำให้การแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น และวัคซีนสามารถต้านทานสายพันธุ์นี้ได้.