-- advertisement --

วันที่ 28 ต.ค. 2564 เวลา 16:09 น.

สธ.สังขละบุรีตะลุยทุ่งใหญ่ฉีดไฟเซอร์เข็มแรกให้เด็กอายุ12ปีขึ้นไป

กาญจนบุรี-เด็กอายุเกิน12ในป่าทุ่งใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรก เผยเส้นทางเข้าไปทุลักทุเลต้องเดินขึ้นเขาลงห้วย

เมื่อวันที่ 28 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรังสิมันต์ ทองสวัสดิ์ สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี นพ.กฤษดา วุธยากร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสังขละบุรี น.ส.ทํศนะวรรณ ศักดิ์กาญจนเดช ศึกษานิเทศ สำนักงานศึกษานิเทศจังหวัดกาญจนบุรี พร้อม นายชัยศักดิ์ ภูมูล ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกองม่องทะ หมู่ 2 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี คณะครู พยาบาล รวมกว่า 15 คน เดินทางด้วยรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ เข้าไปยังโรงเรียนกองม่องทะ สาขาบ้านสาละวะ และ สาขาบ้านไล่โว่ หมู่ 4 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ที่มีชายแดนติดประเทศเมียนมา ห่างจากตัวอำเภอสังขละบุรี ประมาณ 27 กม. ซึ่งเส้นทางบางช่วงเป็นภูเขาสูง และถนนเป็นดินโคลน เนื่องจากได้รับความเสียหายจากฝนที่ตกลงมา ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวัง และความชำนาญในการขับขี่

ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมามีเด็กและชาวบ้านในหมู่บ้านไล่โว่ – สาละวะ จำนวนกว่า 50 คน ติดโควิด-19 จนส่งผลให้ฝ่ายปกครองและสาธารณสุข ต้องนำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสังขละบุรี รวมทั้งมีการนำตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดที่เป็นกลุ่มเสี่ยงอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกในครอบครัวของผู้ติดเชื้อ เข้าพักในศูนย์พักคอยบ้านพระเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ซึ่งปัจจุบันผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติ และได้กลับมาใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านตามปกติ

โดยทีมแพทย์-พยาบาลจากโรงพยาบาลสังขละบุรี และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี เข้ามาติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อฉีดวัคซีนไฟเซอร์ โควตานักเรียนที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นวัคซีนเข็มแรก เพื่อเตรียมรองรับการเปิดภาคเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2564 แบบ ON-SITE เนื่องจากโรงเรียนตั้งอยู่ในพื้นที่ทุรกันดารไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต จึงไม่สามารถจัดการเรียนในรูปแบบ Online ได้ ที่ผ่านมาจึงจำเป็นต้องจัดการเรียน ON-SITE ควบคู่กับการเรียนรูปแบบ ON-HAND ที่ครูผู้สอนส่งงานให้นักเรียนทำที่บ้าน ส่วนการเรียน ในรูปแบบ ON-SITE ชั้นเรียนไหนที่มีจำนวนนักเรียนมากกว่า 25 คน ก็จะปรับให้นักเรียนสลับกันมาโรงเรียนเพื่อเป็นการป้องกันโควิด-19 ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี

ทั้งนี้ ได้มีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านกองม่องทะ ที่มีอายุเกิน 12 ปี ที่ได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองแล้ว จำนวน 66 คน สำหรับโรงเรียนบ้านกองม่องทะ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี เขต 3 เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีนักเรียนทั้งหมด 311 คน โดยโรงเรียนมีสาขาอีก 3 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนกองม่องทะ สาขาบ้านเกาะสะเดิ่ง มีนักเรียน 55 คน และโรงเรียนบ้านกองม่องทะ สาขาไล่โว่ มีนักเรียน 79 คน โรงเรียนกองม่องทะ สาขาสาละวะ มีนักเรียน 87 คน โดยทั้ง 3 สาขา จัดการเรียนการสอนอนุบาล ไปจนถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

นายรังสิมันต์ ทองสวัสดิ์ สาธารณสุข อ.สังขละบุรี เปิดเผยว่า หมู่บ้านทิไล่ป้า หมู่ 5 ต.ไล่โว่ อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร และช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน การเดินทางด้วยรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็ยากลำบาก และเนื่องด้วยในช่วงนี้มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่บ้านสาละวะ ซึ่งการเดินทางเข้า-ออกบ้านไล่ป้า จะต้องเดินเท้าผ่านบ้านสาละวะ และนั่งรถยนต์ต่อเข้าไปยังตัวอำเภอสังขละบุรี ฉะนั้นเพื่อการคัดกรองประชาชนบ้านทิไล่ป้า ว่ามีผู้ใดสัมผัสเชื้อไปหรือไม่ ประกอบกับมีพื้นที่ติดกับชายแดนเมียนมา จึงต้องทำการคัดกรองเชิงรุก เพื่อเฝ้าระวัง และค้นหาผู้ติดเชื้อ พร้อมทั้งสำรวจข้อมูลการรับวัคซีน เพื่อกระตุ้นรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนครอบคลุมด้วย

สำหรับทีมงานของสาธารสุขทั้ง 5 คน ได้เดินเท้าพร้อมสัมภาระ ที่จะไปปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สุขศาลาพระราชทาน อสม. และผู้นำชุมชนบ้านทิไล่ป้า ในการคัดกรอง ออกให้ความรู้ รณรงค์เรื่องมาตรการ D-M-H-T-T เพื่อป้องกันโควิด-19 เฝ้าระวัง และควบคุมโรค โดยเน้นไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นปัญหาหากมีผู้ติดเชื้อ แล้วเข้าไปควบคุมไม่ทัน รวมถึงการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย จึงต้องเข้าไปควบคุมสถานการณ์ให้รวดเร็ว

เส้นทางระหว่างบ้านสาละวะไปบ้านไล่ป้า ระยะทางไม่ไกลมากนัก แต่มีความยากลำบากมาก ต้องเดินขึ้น-ลงเขา ข้ามลำห้วย-ลำน้ำ บางจุดก็มีต้นไม้ล้มขวางเส้นทาง ประกอบกับบางช่วงมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ก็ต้องพักและหลบฝนก่อนจะเดินทางต่อ โดยใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 5 ชม. เนื่องจากมีสัมภาระ อาทิ หน้ากากอนามัย ชุดตรวจโควิด-19 (ATK) อุปกรณ์ป้องกัน น้ำยาเคมีฉีดพ่น ชุด PPE ฟ้าทะลายโจร เป็นต้น ซึ่งความยากลำบากของเส้นทางก็เป็นอุปสรรคในการทำงานของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในเรื่องสาธารณสุข ยิ่งในช่วงฤดูฝนในพื้นที่ ต.ไล่โว่ บางหมู่บ้านไม่สามารถสัญจรไปมาโดยรถยนต์ได้เลย จึงต้องเดินเท้าเข้าไปปฏิบัติภารกิจ

ในการเข้าไปคัดกรองเชิงรุกในหมู่บ้านทิไล่ป้า พบว่า มีประชาชนเริ่มมีความสนใจอยากได้รับวัคซีน ภายหลังจากทราบว่า หมู่บ้านสาละวะและหมู่บ้านข้างเคียง มีผู้ป่วยโควิด-19 จึงได้วางแผนในการให้บริการฉีดวัคซีนให้กับชาวบ้านบ้านทิไล่ป้า แต่หากจะให้ประชาชนเดินเท้าไปที่หมู่บ้านสาละวะ และหมู่บ้านจะแก ที่เรามีบริการฉีดวัคซีน ก็จะเป็นการยากลำบาก ดังนั้นก็จะร่วมกับทีมที่จะเดินทางเข้าไปให้บริการวัคซีนแก่นักเรียน ที่โรงเรียนบ้านหินตั้ง ห้องเรียนสาขาบ้านทิไล่ป้า และที่หมู่ 6 บ้านจะแก โดยจะนำวัคซีนเข้าไปฉีดให้ประชาชนทั่วไปด้วย ซึ่งสามารถที่จะให้บริการวันเดียวกันได้

ขณะที่ นางทัศนะวรรณ ศักดิ์กาญจนเดช ศึกษานิเทศก์จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี ตระหนักถึงความสำคัญ จึงลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเพื่อให้โรงเรียนได้เตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19 ถึงแม้ว่านักเรียนจะได้รับวัคซีนเรียบร้อยแล้ว แต่ก็กำชับให้เด็กนักเรียนปฏิบัติตามมาตรการอ่างเคร่งครัดเหมือนเดิม ซึ่งการใส่แมส-การล้างมือก็ยังมีความสำคัญ พร้อมกันนี้ก็ได้กำชับผู้บริหารและคณะครูทุกท่านว่าอย่าประมาท เพราะเรายังไม่สามารถวางใจได้ในตอนนี้ ถึงแม้ว่าเราจะได้รับวัคซีนครบแล้วก็ตาม จึงขอให้ครูเคร่งครัดดูแลเด็กๆ โดยเฉพาะการสัมผัสใกล้ชิด ให้มีการเว้นระยะห่าง มีเจลแอลกอฮอล์ และอ่างล้างมือจัดไว้ให้ครบถ้วน รวมไปถึงอาหารหารกิน ต้องแยกของแต่ละคน ไม่ปะปนกัน

ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กำชับให้ดูแลเด็กๆ อย่างทั่วถึง หลังจากเปิดการเรียนการสอนในวันที่ 1 พ.ย.ก็จะลงพื้นที่เพื่อติดตามการดำเนินการของโรงเรียนว่าปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดหรือไม่ และนอกจากจะกำชับผู้บริหารโรงเรียนและคณะครูให้ความสำคัญในเรื่องนี้แล้ว ทางผู้ปกครองก็ต้องให้ความใส่ใจดูแลบุตรหลานของตนเองเกี่ยวกับความสะอาดให้ถูกต้องตามสุขลักษณะด้วย

ขณะที่ นายชัยศักดิ์ ภูมูล ผอ.รร.บ้านกองม่องทะ เปิดเผยว่า โรงเรียนบ้านกองม่องทะ และห้องเรียนสาขา เราได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมในการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ ด้วยการประเมินตนเองของสถานศึกษา (Thai Stop Covid) และในส่วนของคุณครูก็ได้มีการฉีดวัคซีนมากแล้ว 97.5% และในส่วนของนักเรียนที่อายุ 12 ปีขึ้นไป พบว่ามีนักเรียนลงทะเบียนประสงค์ฉีดวัคซีน และผู้ปกครองให้ความยินยอม จำนวน 97 คน ทางโรงพยาบาลสังขละบุรี ได้มาดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว โดยจะพบว่า ห้องเรียนสาขาบ้านสาละวะ และห้องเรียนสาขาบ้านไล่โว่ ซึ่งทั้งสองแห่งมีนักเรียนได้รับวัคซีน 100%

ทั้งนี้กรณีที่นักเรียนส่วนหนึ่งไม่ถึงเกณฑ์ในการรับวัคซีน อาจเป็นช่องว่างที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคได้นั้น ในเรื่องนี้เราได้มีการประชุมคุณครูประจำสาขา เพื่อวางมาตรการร่วมกัน ให้เป็นไปตาม 6 มาตรการหลัก และ 6 มาตรการเสริม โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของ รพ.สต.ในพื้นที่ ขณะที่ตนได้เน้นย้ำคุณครูว่าการ์ดต้องไม่ตก โดยจะต้องทำให้นักเรียนและผู้ปกครองมั่นใจให้ได้ และมีแผนเผชิญเหตุ ติดตามสถานการณ์ โดยเฉพาะการคัดกรอง และการเฝ้าระวัง การเคลื่อนย้ายคน ทั้งผู้ปกครองหรือบุคคลภายในชุมชน ถ้าหากมีความเสี่ยงจะต้องรีบแจ้ง/ประสาน และรีบดำเนินการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังสังเกตอาการทันที นอกจากนี้ทางโรงเรียนมีแผนร่วมกับสาธารณสุขที่จะจัดหาชุดตรวจ ATK มาไว้สำหรับสุ่มตรวจนักเรียนที่มีความเสี่ยง เพื่อสร้างความมั่นใจและเป็นการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น พร้อมกำชับคุณครูให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นแบบอย่าง และปลูกฝังวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ลงไปในกิจกรรมการเรียนการสอน ควบคู่กันไปทั้งในเรื่องของการศึกษาและการปฏิบัติตน

สำหรับโรงเรียนบ้านกองม่องทะ เนื่องจากบางห้องเรียนมีนักเรียนมากกว่า 25 คน เราจึงมีการสลับวันมาเรียน แต่หากเป็นห้องเรียนสาขา มีนักเรียนในห้องเรียนไม่ถึง 25 คน เราก็จะเปิดเรียนแบบ on side 100% โดยปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด

ด.ญ.ปีใหม่ พิทักษ์ชาติคีรี นักเรียนชั้น ป.6 รร.กองม่องทะสาขาบ้านสาละวะ เผยว่า ก่อนมารับวัคซีนมีความวิตกกังวลและหวาดกลัว แต่เมื่อได้ฉีดแล้ว ก็พบว่า ไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด ทั้งนี้การฉีดวัคซีนทำให้เรามั่นใจในการมาเรียนและเดินทางไปที่ต่างๆ ซึ่งที่บ้านของตนมีคนติดโควิด-19 หลายคน แต่ปัจจุบันหายป่วยทั้งหมดแล้ว ขณะที่หมอและคุณครูได้สอนเราในเรื่องของการปฏิบัติตัวให้ห่างจากโรคโควิด-19 โดยให้ล้างมือบ่อยๆ และไม่ให้สัมผัสใกล้ชิดกันกับเพื่อนๆ

-- advertisement --