-- advertisement --

สพฐ.ลงดาบเชือด ผอ.โรงเรียน กับครูหญิงวัย 57 ปี สั่งย้ายเข้ากรุ สพป.อ่างทอง พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หลังกลุ่มผู้ปกครองแห่ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด กรณีเด็กนักเรียนชายชั้น ป.2 วัย 8 ขวบ ถูกครูฝ่ามือพิฆาตฟาดเข้ากลางหลังนับ 10 ครั้ง ผ่านมากว่า 2 เดือนแต่เรื่องเงียบหาย รมว.ศึกษาธิการ ลั่นความปลอดภัยในสถานศึกษาเป็นนโยบายหลัก ครูจะทำร้ายเด็กนักเรียนไม่ได้ ใครปล่อยปละละเลยสั่งย้ายให้หมด กำชับเร่งสอบสวนให้รู้ผลใน 2 สัปดาห์ ด้านครูที่ถูกร้องเรียนเสียใจเรื่องที่เกิดขึ้น ยันปมเหตุจากความขัดแย้งภายในโรงเรียน

กรณีผู้ปกครองนักเรียนกว่า 50 คนรวมกลุ่มไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอ่างทอง เพื่อติดตามเรื่องร้องเรียนครูหญิงโรงเรียนพวงทองอุปถัมภ์ ต.แสวงหา อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ทำร้ายเด็กนักเรียนชายคนหนึ่ง อายุ 8 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.2 โดยการใช้มือตีกลางหลังประมาณ 10 ครั้ง เหตุเกิดช่วงต้นเดือน ก.พ. กลุ่มผู้ปกครองไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.แสวงหา เมื่อวันที่ 10 ก.พ. พร้อมทั้งร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอ่างทองแต่เรื่องเงียบหาย

ความคืบหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 23 เม.ย. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ย้ำว่าความปลอดภัยในสถานศึกษาเป็นนโยบายหลักสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องขับเคลื่อน และที่เน้นเป็นพิเศษคือความปลอดภัยของนักเรียนที่ถูกครูทำร้ายต้องไม่เกิดขึ้น เมื่อทราบเรื่องดังกล่าวได้สั่งการให้ ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ดำเนินการติดตามเรื่อง กระทั่งเมื่อวันที่ 22 เม.ย. สพฐ.มีคำสั่งย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนพวงทองอุปถัมภ์ และครูที่ผู้ปกครองร้องเรียนแล้ว พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยเน้นย้ำกับเลขาธิการ กพฐ.ไปว่า ควรเร่งดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

รมว.ศึกษาธิการกล่าวต่อไปว่า ความปลอดภัยในสถานศึกษามีความหลากหลาย ได้ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดความไม่ปลอดภัยในสถานศึกษายังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะมาทบทวนมาตรการต่างๆของกระทรวงศึกษาธิการในเรื่องนี้ทั้งหมด และยังกำชับเลขาธิการ กพฐ. ไปด้วยว่าหากเกิดเหตุการณ์ครูทำร้ายเด็กขึ้นอีกต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนให้เห็นผลภายใน 2 สัปดาห์ต้องไม่มีการแกล้งถ่วงเวลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ต้องติดตามเร่งรัดหรือใช้มาตรการที่เข้มข้น เช่น ให้ย้ายครูที่ก่อเหตุออกจากพื้นที่ แต่ถ้าผู้บริหารสถานศึกษาไม่ดำเนินการใดๆ มีการถ่วงเวลาหรือช่วยเหลือกันก็ต้องย้ายผู้บริหารสถานศึกษาด้วย และถ้าผู้บริหาร สพท.ไม่สนใจติดตามเรื่องความไม่ปลอดภัยในสถานศึกษาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สพฐ.ก็ต้องพิจารณาย้าย ผอ.สพท.ด้วยเช่นกัน เราต้องจริงจังกับเรื่องนี้เพื่อให้สถานศึกษาเป็นสถานที่ปลอดภัยต่อนักเรียนอย่างแท้จริง

ต่อมาผู้สื่อข่าวไปพบนางเสาวณีย์ งามปลูก อายุ 57 ปี ครูที่ถูกร้องเรียนเปิดใจว่า เสียใจในเรื่องที่เกิดขึ้น ได้รับคำสั่งให้ไปช่วยงานที่ สพป.อ่างทอง ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 พ.ค.เพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริง รู้สึกใจหายเนื่องจากเป็นห่วงเด็กและอยากจะเกษียณชีวิตราชการโรงเรียนแห่งนี้ที่สอนหนังสือเด็กมานานหลายปี ที่โดนร้องเรียนและแจ้งความคาดว่าสาเหตุเกิดจากความขัดแย้งภายในโรงเรียน โดยเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนและนักเรียนโดนวางหมามุ่ยยกห้อง ขณะคุมสอบเด็กอยู่ในห้องจู่ๆทุกคนเกิดอาการคัน พอเปิดกระเป๋าถือของตนที่วางอยู่พบหมามุ่ยโรยอยู่ภายใน ได้ไปแจ้งความที่ สภ.แสวงหา พร้อมทำเรื่องขอดูภาพจากล้องวงจรปิดภายในโรงเรียน แต่ทางโรงเรียนยังไม่ให้ดู

ด้านนางจรรทิมา เวลาดี ผอ.โรงเรียนพวงทองอุปถัมภ์ ที่ถูกคำสั่งย้ายอีกคนกล่าวว่า ได้รับแจ้งจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอ่างทองว่ามีการร้องเรียนครูคนดังกล่าว ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนแต่มาถูกคำสั่งย้ายก่อน