ดร.รุ่ง ชี้รัฐบาลล้มเหลวปฏิรูปการศึกษา ระบุตำแหน่ง ศธภ.-ศธจ.ไม่มีความจำเป็น วอนนายกฯเลิกคำสั่ง คสช. หนุนกระจายอำนาจ-งบประมาณสู่โรงเรียนเป็นประโยชน์กว่า
ดร.รุ่ง แก้วแดง ประธานคณะมนตรีปฏิรูปการศึกษาภาคประชาชน เปิดเผยว่า จากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 19/2560 การปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ที่ให้มีการตั้งศึกษาธิการภาค(ศธภ.) และศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.)มาทำหน้าที่เป็นตัวแทนกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคนั้น จากที่ได้ดำเนินการมาเป็นเวลาเกือบปี ปรากฎว่าเกิดปัญหาในการบริหารงานในภูมิภาค ไม่มีการบูรณาการ ซึ่งไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการมี 2 ตำแหน่งนี้ ซึ่งตนได้เห็นว่าทั้ง ศธภ.และ ศธจ.นอกจากไม่มีความจำเป็นแล้วยังทำให้เสียงบประมาณอีกด้วย เพราะทำให้มีผู้บริหารระดับ 9 และ 10 เพิ่มขึ้นทั่วประเทศจำนวนมาก โดยเฉพาะตำแหน่ง ศธภ.ที่คนในกระทรวงเติบโตไม่ทัน ทำให้เก้าอี้นี้เป็นเก้าอี้เวียน สำหรับคนที่มาเอาตำแหน่งพอได้แล้วก็ออกไป ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่มีประโยชน์ และไม่มีความจำเป็น บางภาคก็มีแต่ชื่อแต่ไม่มีคนไปนั่งทำงาน
“ต้องถือว่าการปรับโครงสร้างครั้งนี้เป็นความล้มเหลวของกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐบาล เพราะเป็นการปฏิรูปที่รวมศูนย์อำนาจ ทั้งที่การเรียกร้องให้ปฏิรูปการศึกษาเพื่อกระจายอำนาจไปให้โรงเรียน แต่กลับไม่ทำ ผมเห็นด้วยกับการกระจายอำนาจให้โรงเรียน และโรงเรียนนิติบุคคล แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไปแล้วไม่ใช่ทีเดียวทั้ง 3 หมื่นกว่าโรงเรียน ต้องทำโรงเรียนที่มีความพร้อม ต้องมีการอบรมผู้บริหาร โดยเน้นย้ำเรื่องคุณธรรม จริยธรรม และความซื่อสัตย์สุจริตก่อน แล้วยกเลิก ศธภ.และ ศธจ.เพราะที่บอกว่าให้บูรณาการในพื้นที่ ก็ไม่เคยมีการบูรณาการ เพราะฉะนั้นก็ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้”
ดร.รุ่ง กล่าวและว่า ตนคิดว่าไม่ว่าใครจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ประเด็นสำคัญต้องทบทวนเรื่องนี้ เพราะตอนนี้การปฏิรูปการศึกษา เดินไม่ได้แล้ว เพราะไม่มีใครทำอะไร ดังนั้นรัฐบาล โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี จะต้องฟังประชาชน ต้องยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 19/2560 แล้วนำงบประมาณไปให้โรงเรียน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับการปฏิรูปการศึกษามากกว่า