-- advertisement --

ทั้งที่ดิน ๑,๑๕๓ ไร่ ทั้งนามจุฬาฯ “พ่อ” คือ “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ร.๕ พระราชทานไว้ เพื่อการศึกษา

แต่คณาจารย์บ่มเพาะกันแบบไหนมิทราบ นิสิตยุคนี้ ส่วนหนึ่ง นอกจากไม่กตัญญู-รู้คุณแล้ว ยังกลายเป็น

นิสิต “ต่ำทรามกว่าสัตว์” ด้านเนรคุณ

รวมถึง “บาง’จารย์” ด้วย!

ยิ่งไปกว่านั้น คณะบริหารแต่ละสมัย ก็ยังนำที่ดินพระราชทานเพื่อการศึกษาไปเพื่อการค้า หาเงินกันเป็นล่ำ-เป็นสันอีกส่วนหนึ่ง

อบจ.ทำครั้งนี้….”เกินอภัย”

ไร้สำนึกคน ทั้ง “ภูมินิสิต” ตื้นเขินประจานนามจุฬาฯ  ดั่งกเฬวรากชนชั้่นทางปัญญา ถึงขั้นสร้างปัญหาระหว่างชาติ

เมื่อเอ่ยถึง “องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ” ปุ๊บ

บางคนอาจนึกถึง “เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล” ปั๊บ!

บอกก่อนเลย “เนติวิทย์” ไม่เกี่ยว……..

และทราบว่า “เนติวิทย์” ตอนนี้ บวชเป็น “พระภิกษุ  เนติวิทย์ จรณสัมปันโน” คือ “ผู้ถึงพร้อมด้วยจรณธรรม”

ที่วัด “ญาณเวศกวัน” ของท่าน “สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)” ตั้งแต่ ๑๐ ก.ค.๖๕

ขณะนี้ ท่านยังครองสมณเพศอยู่หรือลาสิกขาแล้ว ผมไม่ทราบ แต่ถึงอย่างไร ก็ขออนุโมทนาบุญด้วย

แปลกระคนดีใจสำหรับผม ที่แปลก คือไม่คิดว่า เนติวิทย์จะบวช ที่ดีใจ คือ บวชเป็นศิษย์ในสำนัก “ท่านเจ้าคุณประยุทธ์”

จะบวชเพื่อนอนกิน-นอนเล่น รอเวลาสึกไม่ได้ บวชที่นี่ ต้องบ่มเพาะ ทั้งปริยัติ ทั้งปฏิบัติ สู่ปฏิเวธ

สึกหาลาเพศออกมาเมื่อใด ผมเชื่อ ด้วยคนมีปัญญาอย่างเนติวิทย์ เมื่อมีวาสนาได้พบครูอาจารย์ประเสริฐ เช่น  ท่านเจ้าคุณประยุทธ์

เนติวิทย์ จะพ้นจากอนธการ สู่แสงสว่าง “สัมมาทิฐิ” นำทาง ก่อนพูด ก่อนคิด ก่อนทำ

ฉะนั้น ข้อความที่ “องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ” เผยแพร่ ตามที่ผมยกมาให้ดูต่อจากนี้ “เนติวิทย์” ไม่เกี่ยวข้อง

………………………………

องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.)

วันสิบสามตุลาฯ มาบรรจบ

ฤกษ์สมภพโจชัว หว่องผู้ผ่องแผ้ว

ชูประชาธิปไตยไว้เป็นแนว

ดังดวงแก้วส่องประเทศเขตฮ่องกง

ปวงเสรีชนไทยเอาใจช่วย

ให้หมีพูห์มอดม้วยเป็นผุยผง

ขอโจชัวจงสดชื่นชีพยืนยง

สุขสมปองพ้นห้องกรง…ทรงพระเจริญ

黃之鋒,祝你生日快樂!

สุขสันต์วันเกิดโจชัวหว่อง

香港是一個國家!

ฮ่องกงเป็นประเทศ

ในวาระดิถี 13 ตุลาคม วันคล้ายวันเกิดของโจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวชาวฮ่องกงผู้จุดประกายการต่อสู้เผด็จการยุคใหม่ของคนหนุ่มสาวทั่วโลก

แม้เขาจะยังคงถูกจองจำอยู่ในวันนี้ แต่พวกเราก็จะไม่ลืมเขา

ขอเชิญชวนร่วมอวยพรวันเกิด และภาวนาให้เขาและเพื่อนๆ ปลอดภัยและได้กลับมาอยู่กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

We shall celebrate the 13th  October in commemoration of the  26th birthday of Joshua Wong, a  Hong Kong activist who inspired the  fights against dictatorship for youths  all over the world.

Though he is still being imprisoned, we will not forget him. We would like to invite you to celebrate his birthday and pray for  him along with his friends to be safe  and harmlessly return to their families.

……………………………

แค่ข้อความก็เศร้าใจในความเป็นนิสิตจุฬาฯ อยู่แล้ว

เห็นภาพประกอบกลอนที่ อบจ.วางรูปแบบด้วยละก็

ผมเชื่อ “เป็นเรื่องแน่!”

เพราะมันเป็นภาพจัดทำ-จัดวางรูปแบบล้อเลียนในทางหยามหมิ่น “พระมหากษัตริย์” ชนิดจงใจชัดแจ้ง

กระทั่งคนแวดวงจุฬาฯ เอง ในจำนวนผู้แสดงความเห็น  ๕๓๑ ราย ออกมาคอมเมนต์ “ตำหนิ” มากต่อมาก เช่น

บังเอิญ ขยันค้า

@@@@@@@

ขอคัดลอกมาจาก Somsak Sansukjareanpol เพราะถูกใจทุกคำ ตรงประเด็น อ่านแล้วคิดตามจะเห็นภาพชัดเจนว่า นี่คือนิยามของคำว่า ”เนรคุณ”

…………………….

วันๆ ไม่ทำอะไร หนังสือไม่เรียน งานการสุจริตไม่ทำ

นั่งแซะเจ้า เฝ้าทวิตเตอร์

ติดแฮชแท็กเอาจำนวนรีทวีตแล้วก็มานั่งปลื้มกันในกลุ่ม แซะไปเรื่อยๆ

ตั้งแต่ผักตบชวา โครงการหลวง ปลานิล ฝนเทียม สารพัดจะหาเรื่องมาตำหนิ

พูดจาหยาบคาย ไร้ซึ่งการศึกษา

อยากถามว่า “ตระกูลมหิดล” ไปทำอะไรบิดามารดามันให้เดือดร้อน ถึงได้เอาท่านมาบูลลีกันสนุกสนาน

ปากก็เรียกหาเสรีภาพและความเท่าเทียม

แต่การกระทำย้อนแย้งสิ้นดี

ไม่อยากให้ใครมาล่วงล้ำสิทธิของตัวเอง แต่กลับไปจาบจ้วงสิทธิของคนอื่นตลอดเวลา

อยากพูด อยากด่า อยากปราศรัย

แต่ห้ามกษัตริย์พูด ห้ามกษัตริย์มีกฎหมายคุ้มครอง

นี่หรือคือความเท่าเทียม เคยพิจารณาตัวเองไหม?

ว่าตั้งแต่เกิดมา เคยทำคุณงามความดีอะไรให้แผ่นดินนี้บ้าง?

เคยพิจารณาตัวเองหรือไม่ ว่าตัวเองฉลาดกว่าในหลวงตรงไหน?

เคยลงไปสัมผัสไปคลุกคลีปัญหาชาวบ้านจริงๆ หรือเปล่า?

ฟังเรื่องเล่าเมาท์เรื่องเท็จ ก็คิดว่าตัวเองฉลาดแล้ว

ดูถูกคนรุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายายว่าโง่

คิดหรือว่าในหลวงทำแต่ละอย่างแบบขอไปที หรือทำเพื่อ propaganda

คิดหรือว่าประชาชนโง่ให้ในหลวงหลอกลวงมา 70 ปี

ตัวเองฉลาดหลักแหลมมากสินะ

ลองดูนะ ใช้เวลาสัก 5 นาที 10 นาที ทบทวนดูว่า

คนทั้งประเทศจำนวนเป็นล้านๆ

เค้าทนตากแดดตากฝนหลายๆ ชั่วโมงเพื่อรอเฝ้ารับเสด็จเพื่ออะไร?

บางคนเดินข้ามเขามาหลายลูกเพื่อมารับเสด็จ บางคนเด็ดดอกไม้มาถวายตั้งแต่ดอกยังสดๆ จนเหี่ยวแห้งกว่าจะได้ถวาย

บางคนขอแค่เป็นจุดเล็กๆ ในจำนวนจุดสีเหลืองเป็นล้านจุดเพื่ออะไร?

คุณล่ะ….

ตั้งแต่เกิดมาเคยทำอะไรแบบนี้มั้ยเพื่อใครสักคน?

ใครสักคนที่คุณรักเทิดทูนสุดหัวใจ ผมเดาว่า ไม่

เพราะในหัวใจคุณมีแต่ตัวเอง ตัวเอง และตัวเอง

คุณอยากสบาย อยากมีเสรีภาพและความเท่าเทียม

คุณไม่รู้หรอกว่าในหลวงเดินเท้ามาทั้งชีวิตกี่แสนกิโลเมตร นั่งรถไปกี่หมื่นตำบล

นั่งไปทั้งๆ ที่ถนนยังไม่ลาดยางมะตอยด้วยซ้ำ

ขณะที่คุณนั่งกดมือถือ ทวีตข้อความขยะ

เรียกร้องนี่ นั่น

ก่อนหน้านั้น 70 ปี ในหลวงไปมาแทบทุกตารางนิ้วในแผ่นดินนี้ ไม่เคยบ่น ไม่เคยตำหนิใคร

ทำจนกระทั่งทำไม่ไหวก็ยังทรงห่วงใยพวกคุณนั่นแหละ

ความกตัญญู คุณไม่มีก็ได้

แต่ความรู้ที่แท้จริง คุณต้องค้นหานะ ไม่ใช่มานั่งสมองกลวง

ให้กะเทยโรคจิต ไร้รสนิยม มาหลอกเอาง่ายๆ

ให้นักการเมืองที่ทำอะไรไม่เคยสำเร็จสักอย่างมาหลอกใช้

ให้นักวิชาการบ้าฝรั่งเศสชี้นำชีวิต

ให้ผู้หญิงไร้ยางอายแย่งผัวชาวบ้านเป็นแบบอย่าง

มันไม่สมาร์ทสมกับเป็นคนรุ่นใหม่เลยจริงๆ

บูลลีคนอื่นโดยเค้าตอบโต้ไม่ได้ มันน่าอายนะ

กล่าวหาคนอื่นโดยไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ มันเลวทรามนะ ลองคิดดู

#ฝากไว้ให้คิด

……………………………..

นายกฯ องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ ต่อจากเนติวิทย์ คือ “ศุกรียา วรรณายุวัฒน์” หรือมายมิ้น ครุศาสตร์ ปี ๔

เป็นแกนนำ ๓ นิ้วกลุ่ม “หลากหลายทางเพศ” เจ้าของวลีปราศรัย “ถ้าไม่สู้ก็อยู่อย่างทาส” ต่อจากธนาธร

ล่าสุด ตำแหน่งนี้มีการเลือกตั้งอีกครั้ง โดย “แรปเตอร์”  สิรภพ อัตโตหิ คณะอักษรศาสตร์ ปี ๕ นักเคลื่อนไหว LGBTQ เป็นนายกฯ องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ คนปัจจุบัน

นี่คือ อบจ.รุ่น “เสนียดชาติ-อุบาทว์เมือง”!

คนปลายซอย

-- advertisement --