ประท้วง ผอ.เซนต์คาเบรียล บริหารไม่โปร่งใส จี้ชี้แจงการตั้งผู้เชี่ยวชาญ – เบิกเงินไม่มีใบเสร็จ – 70 ล้านลงทุนในนามส่วนบุคคล ด้าน ผอ.วินัย ยื่นหนังสือยุติบทบาท ผอ.เซนต์คาเบรียล เปิดทางการตรวจสอบข้อเท็จจริง ลั่นทำตามข้อเรียกร้องให้ทุกคนสบายใจ
เมื่อเวลา 8.00 น.วันที่ 19 ก.พ.2561 ที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะครู นักเรียน ศิษย์เก่าและผู้ปกครอง โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ประมาณ 400 คน รวมตัวประท้วงบริเวณหน้าตึกอำนวยการ เรียกร้องให้ ภราดาวินัย วิริยวิทยาวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ทั้งนี้ คณะครู นักเรียน ศิษย์เก่าและผู้ปกครอง ได้ออกแถลงการณ์สอบถามถึงการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส อาทิเช่น การแต่งตั้งบุคลากรโดยไม่ผ่านที่ปรึกษาเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ มีคุณวุฒิหรือผลงานใดๆ มาก่อนหรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญได้เงินเดือน-เงินพิเศษเท่าไร หลักฐานการจ่ายเงินให้ผู้เชี่ยวชาญ จ่ายภาษีหรือไม่
มีการจัดห้องพักให้ผู้เชี่ยวชาญภายในโรงเรียน ปรับปรุงห้อง ซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่สมควรหรือไม่ ไม่มีการแจงงบประมาณการเบิกเงิน และไม่มีเอกสารใบเสร็จที่ถูกต้อง นำเงินโรงเรียน 70 ล้านไปลงทุนในนามส่วนบุคคล การเบิกเงินไม่ดำเนินการตามขั้นตอน ค่าใช้จ่ายงานเลี้ยงปี 2017 ยอด 2.6 ล้านไม่มีใบเสร็จค่าใช้จ่าย ทองที่เหลือจากการแจกปีใหม่ครูไปไหน เปลี่ยนขนม อาหารกลางวันนักเรียนเป็นขนมขบเคี้ยว ซึ่งผู้ปกครองไม่พอใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลาประมาณ 08.00 น. ภราดาวินัย วิริยวิทยาวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ออกมายืนสังเกตการณ์ที่บริเวณหน้าตึกอำนวยการด้วย
ทั้งนี้เวลา 12.50 น. ที่บริเวณโถงอาคารเดอร์ ภราดาวินัย วิริยวิทยวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ลงมาพบกับคณะผู้ปกครอง ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน พร้อมกล่าวว่า อยากบอกนักเรียน ครู และผู้ปกครองทุกท่าน ตลอดเวลาที่ผ่านมามีความหวังดีมาตลอด และไม่หวังว่าที่เราทำดีที่สุดจะถูกใจทุกคน ซึ่งขณะนี้มีข้อเสนอให้ตน 2 ประการ คือ ชี้แจงการบริหารงาน และข้อเรียกร้องให้ยุติบทบาท
ทั้งนี้ ตนยินดีให้ตรวจสอบทุกเรื่อง แต่ขอฝากให้ตัวแทนทั้ง 7 คนทำหนังสือร้องเรียนอย่างเป็นทางการด้วย ขณะเดียวกันจะทำหนังสือถึงมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย เพื่อแจ้งว่ามีผู้ประสงค์ให้ตนยุติบทบาท พร้อมแจ้งขอยุติบทบาทชั่วคราวจนกว่าการตรวจสอบจะแล้วเสร็จ
“ข้อเรียกร้องที่ทุกคนต้องการ คือให้ผมยุติบทบาท ผอ.โรงเรียน มีบางคนอ้างถึงในอดีตที่ผมเคยพูดว่าถ้าเซนต์คาเบรียลไม่ต้องการผม ผมจะไปเองยังยืนยันคำนั้นอยู่ สิ่งใดที่ผมทำ ผมทำด้วยใจเสียสละ เสียงสะท้อนมาไม่เชื่อ ผมพูดไม่เชื่อไม่เป็นไร ผมพยายามยอมรับได้ ที่ให้ตรวจสอบเรื่องต่างๆ ผมยินดี เพื่อการตรวจสอบอย่างสบายใจไม่มีอิทธิพลครอบงำ ให้ผมถอยผมก็ยินดี เห็นหรือไม่ผมไม่ใช่คนดื้อรั้น และที่อยู่ตรงนี้มีกี่คนทั้งหมดมี 5,000 คน โรงเรียนนั่นยังมีประชากรอีก 80-90% ไม่ได้อยู่ที่นี่ หากมาบอกให้บราเดอร์ยังอยู่จะทำอย่างไร” ภราดาวินัย กล่าวและเดินออกจากบริเวณดังกล่าวทันที
ด้านนายเกษม แจ่มนิลกุล ตัวแทนผู้ปกครอง กล่าวว่า จากการหารือก่อนหน้านี้ภราดาวินัย ยินดีรับข้อเสนอทั้ง 2 เรื่อง และยินดียุติบทบาทผอ.โรงเรียน ซึ่งเป็นเรื่องดีเพื่อเปิดโอกาสให้คนนอก หรือส่วนกลางมาทำหน้าที่ตรวจสอบ โดยภราดาวินัย จะทำหนังสือยุติบทบาทวันนี้ แต่จะมีผลเมื่อไรขึ้นกับการพิจารณาของคณะภารดาเซนต์คาเบรียล ซึ่งตอบไม่ได้ แต่รูปการณ์ออกมาเช่นนี้ในฐานะผู้ปกครองก็ถือว่าดีแล้ว ส่วนจะส่งใครมาบริหารงานแทนพวกตนไม่ขัดข้อง
“แต่การตรวจสอบข้อเรียกร้องนั้นทางเครือข่ายผู้ปกครอง ครู และข้อเสนอของนักเรียน จะส่งเอกสารให้ตรวจสอบตามที่เรียกร้อง ซึ่งตามกระบวนการทางคณะเซนต์คาเบรียลจะแต่งตั้งผู้ตรวจสอบ ก็ไม่กังวลว่าเป็นพวกเดียวกันจะช่วยเหลือกัน ส่วนกำหนดกรอบระยะเวลานั้นยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ส่งเอกสารเลย และคงต้องรอกระบวนการของโรงเรียนคือ ให้ปิดภาคเรียนก่อนแล้วตรวจสอบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับนักเรียน ทั้งนี้ จากการหารือยืนยันว่าครูและนักเรียนที่ออกมาเรียกร้องจะไม่ได้รัลกระทบแต่อย่างใด”นายเกษม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการชุมนุมตัวแทนผู้ปกครองและศิษย์เก่า และภราดาวินัย ชี้แจง มีเสียงตะโกนและไล่เป็นระยะ โดยมีเรียกร้องให้ ภราดาวินัย ต้องยุติอำนาจการบริหารทุกอย่างภายในวันนี้ เนื่องจากกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อนักเรียนและครูที่ออกมาเรียกร้อง และจะแยกย้ายกันหลังเห็นหนังสือยื่นขอยุติบทบาทของภราดาวินัย ทั้งนี้ การชุมนุมครั้งนี้ยืดเยื้อกว่า 6 ชั่วโมง
จากนั้นเวลา 15.00 น. กลุ่มครู นักเรียน ผู้ปกครองโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบการดำเนินงานอันไม่มีธรรมาภิบาล ส่อไปในทางทุจริต และผิดต่อหลักของกฎหมาย และคุณธรรมจริยธรรม ของ ผอ.โรงเรียนเซนต์คาเบรียล โดยมีนายพะโยม ชิณวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) รับเรื่องแทน ก่อนเดินทางไปยื่นหนังสือต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป
ทั้งนี้ นายพะโยม กล่าวว่า การแก้ปัญหาเรื่องนี้ถือว่าอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา เพราะโรงเรียนเซนต์คาเบรียล มีสถานะเป็นนิติบุคคล ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งหากทางโรงเรียนต้องการใช้ทาง สช.ร่วมเป็นกรรมการในการตรวจสอบเรื่องใด ก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทาง สช.จะต้องกรรมการสืบสวนเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายพะโยม กล่าวว่า เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา สช.จะเข้าไปตรวจสอบได้ก็ต่อเมื่อมีการทำผิด พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน ส่วนเรื่องความไม่พอใจของครู นักเรียน และผู้ปกครอง คณะกรรมการบริหารสถานศึกษา มีอำนาจดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเองไม่ใช่อำนาจของ สช.
เมื่อถามต่อว่า มีข้อกล่าวหาเรื่องการตั้งผู้เชี่ยวชาญไม่โปร่งใส และใช้เงินโรงเรียนไปลงทุนในชื่อส่วนบุคคล เลขาธิการ กช. กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่เท่าที่ดูเบื้องต้นทุกอย่างอยู่ในอำนาจของโรงเรียนที่จะดำเนินการได้