-- advertisement --

รอบรั้วการศึกษา I STC ปั้นหลักสูตรอาหารไทยกระหึ่มโลก

“อาหารไทยยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ คณะศิลปศาสตร์ จึงเกิดแนวคิดในการพัฒนาหลักสูตรใหม่ คือ หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาศิลปะและเทคโนโลยีการประกอบอาหาร โดยขณะนี้ได้รับการอนุมัติให้เปิดรับนักศึกษาใหม่จากสภาวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามเรียบร้อยแล้ว”

ดร.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ คณบดีคณะศิลปศาสตร์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เกริ่นนำถึงหลักสูตรใหม่เอี่ยม ซึ่งมีเป้าหมายตอบสนองความต้องการพ่อครัว-แม่ครัวไทยที่มีฝีมือในระดับสากล และมีความสามารถรอบด้านไม่เพียงแต่การประกอบอาหารแต่ยังสามารถปรับสูตร วิธีการปรุงอาหาร และเครื่องปรุงต่างๆ ได้ตามสถานการณ์

“ปัจจุบันอาหารไทยเป็นที่ต้องการทั่วโลก และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในอาหารนานาชาติชั้นสูง แต่พ่อครัวแม่ครัวไทยที่มีศักยภาพ และสามารถเติบโตในสายบริหารหรือเป็นเจ้าของกิจการได้ยังมีอยู่จำกัด สาขาวิชานี้ถือเป็นสาขาเชฟอาหารไทยโดยเฉพาะที่แรกและที่เดียว”

ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรนี้ สามารถประกอบอาชีพได้หลากหลาย เช่น ผู้ประกอบการอาหารในโรงแรม และภัตตาคาร ผู้ประกอบธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม ผู้ประกอบการร้านอาหารและภัตตาคารทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ผู้ประกอบธุรกิจงานด้านกิจกรรมพิเศษ เช่น การประชุม การจัดนิทรรศการ การสัมมนา นักวิเคราะห์และพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร อาจารย์/นักวิชาการด้านศิลปะและเทคโนโลยีการประกอบอาหาร ฯลฯ และไม่เพียงแต่มีความรู้เรื่องการประกอบการอาหารเท่านั้น แต่ผู้เรียนจะมีองค์ความรู้เรื่องการเปิดร้านอาหารไทยในต่างประเทศ รู้เรื่องกฎเกณฑ์การเปิดร้าน สิ่งที่ต้องประพฤติปฏิบัติ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายการเปิดร้านอาหารไทยในแต่ละประเทศ ฯลฯ

หลักสูตรนี้เปิดรับนักศึกษาไทยและนักศึกษาต่างชาติที่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี 4 ปี โดยผู้เข้าเรียนต้องจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือ ปวช. ในสาขาต่างๆ สำหรับผู้เรียนดีหรือมีความสามารถพิเศษ ทางวิทยาลัยจะมีทุนการศึกษาสนับสนุนอีกด้วย

“เราเปิดรับนักศึกษารุ่นละ 50 คน จำนวนที่ไม่มากเกินไปทำให้เราสามารถดูแลนักศึกษาได้อย่างใกล้ชิด เนื้อหาและบริบทของการพัฒนานักศึกษาเราได้เตรียมไว้พร้อมมูลแล้ว ขอให้นักศึกษาเข้ามาเรียนกับเราด้วยความตั้งใจจริง ความมุ่งมั่น และจิตใจที่เปิดกว้าง เรามั่นใจว่าสาขานี้จะเป็นใบเบิกทางสู่ความสำเร็จให้กับนักศึกษาอีกสาขาหนึ่ง”ดร.ยิ่งศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

——————–

-- advertisement --