ดาว์พงษ์ แนะใช้คุ้มค่า มุ่งพัฒนาสถานศึกษาคุณภาพ-เชิญมหา’ลัยคุยผลิตครู
วันที่ 24 ส.ค.59 พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 8/2559ว่าตนได้ย้ำถึงเรื่องการใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ปีงบประมาณ 2559 ที่กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ได้รับประมาณ 9,400 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามากกว่าทุกกระทรวง แบ่งเป็นสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) 5,000 ล้านบาท, สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) 3,000 กว่าล้านบาท, สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) 160 กว่าล้านบาท และสำนักงานปลัดกระทรวงฯ 80 กว่าล้านบาท
โดยมีเงื่อนเวลาที่จะต้องดำเนินการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และทำข้อตกลงกับสำนักงบประมาณ ภายในวันที่ 2 ก.ย.59 ซึ่งเหลือเวลาเพียง1สัปดาห์เท่านั้น ที่จะต้องจัดทำรายละเอียดเพราะต้องมีการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จในวันที่ 31 ธ.ค.59
“จากข้อจำกัดดังกล่าวผมเกรงว่า จะเกิดช่องว่างในการทุจริต ช่องว่างในการยัดเยียดโครงการให้กับสถานศึกษาซึ่ง สพฐ.ต้องดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น งบที่ลงไปต้องให้ตรงกับต้องการของสถานศึกษาจริงๆ และต้องตรวจสอบทุกขั้นตอนไม่ใช่มีการเรียกเงินทอนในทุกขั้นตอนจนมาถึงรัฐมนตรี”
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวและว่า ตนได้ให้คำแนะนำในการใช้งบฯ ว่าขณะนี้ ศธ.กำลังบริหารจัดการเรื่องโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีนักเรียนต่ำกว่า 20 คน ซึ่งมีประมาณ 800 แห่ง โดยให้มีโรงเรียนแม่เหล็กขึ้นมาดึงดูดความสนใจนักเรียนให้อยากมาเรียนมากขึ้น ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงโรงเรียนที่จะเป็นโรงเรียนแม่เหล็กให้มีคุณภาพที่สมบูรณ์ ขึ้นมารองรับ ทั้งนี้ตนจะไม่ไปแตะโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่พิเศษที่อยู่ห่างไกล บนเขา บนดอย ที่เด็กเดินทางค่อนข้างลำบาก และได้มอบหมายให้ สพฐ.ไปดูว่าจะมีโรงเรียนที่จะเป็นโรงเรียนแม่เหล็กอยู่กี่โรงเรียน ที่มีครู บุคลากร สถานที่ สิ่งแวดล้อมด้านกายภาพ และจำนวนนักเรียน เป็นหลัก
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า และในส่วนของมหาวิทยาลัยจะมีอยู่ 2 หมวด คือการจัดซื้อครุภัณฑ์ และการก่อสร้าง แต่เนื่องจากเวลามีจำกัดการเปลี่ยนแปลงหมวดครุภัณฑ์อาจไม่ทัน จึงได้สั่ง สกอ.ไปดูว่าในหมวดครุภัณฑ์จะจัดงบฯ ไปลงคณะที่เป็นนโยบายหรือไม่ เพราะขณะนี้ ศธ.มีนโยบายเร่งผลิตหลักสูตรครูให้มีคุณภาพ และให้ตรงต่อความต้องการของประเทศ โดยจะเชิญมหาวิทยาลัย มาประชุมในวันที่ 25 ส.ค.59 นี้