-- advertisement --

ศิษย์นิติศาสตร์รามคำแหง ขึ้นแท่นผู้พิพากษา-อัยการผู้ช่วย

ม.รามคำแหง ภูมิใจมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติและองค์พ่อขุนฯ ที่ระลึกให้ศิษย์เก่าทำงานรับใช้ประเทศชาติในอาชีพที่เป็นเกียรติยศสูงสุดของนักกฎหมาย

เมื่อเร็วๆ นี้ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (ม.ร.) จัดพิธีมอบเกียรติบัตรให้แก่ศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน โดยมีศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์ ที่ดำรงตำแหน่งเป็นข้าราชการตุลาการ และพนักงานอัยการช่วยราชการและปฏิบัติราชการ เข้ารับเกียรติบัตร จำนวน 36 คน โดย ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดี ม.ร.เป็นประธาน

อาจารย์ปรีชา ประยูรพัฒน์ รองอธิการบดีฝ่ายศิษย์เก่าและชุมชนสัมพันธ์ กล่าวถึงการมอบเกียรติบัตรแก่ศิษย์เก่าครั้งนี้ เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างมหาวิทยาลัย กับศิษย์เก่า และเแสดงความยินดีกับศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน รวมทั้งเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับศิษย์เก่าในการปฏิบัติราชการ

สำหรับศิษย์เก่าที่เข้ารับเกียรติบัตรนั้น เป็นไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการตุลาการ โดยมีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งข้าราชการตุลากร ให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ และคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ 2373/2559 ที่2465/2559 และที่ 36/2561 เรื่องให้พนักงานอัยการช่วยราชการและปฏิบัติราชการ ซึ่งวันนี้มีผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลชั้นต้น ผู้พิพากษาศาล และอัยการผู้ช่วย เข้ารับเกียรติบัตรและของที่ระลึก จำนวน 36 คน

ในโอกาสนี้ ผศ.วุฒิศักดิ์ กล่าวชื่นชมศิษย์เก่าว่า ท่านทั้งหลายเป็นแบบอย่างให้กับรุ่นน้องได้มีกำลังใจในการเรียนหนังสือ ฟันฝ่าอุปสรรค มานะอดทน และพยายามวางแผนการเรียนและการสอบของตนเองมาได้สำเร็จ ขอฝากให้ท่านรักษาคุณงามความดีที่สร้างไว้ให้สมกับเป็นลูกพ่อขุนฯ เชื่อว่าองค์พ่อขุนฯ มีอภินิหารจริงและสัมผัสได้ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวรามคำแหงยึดมั่นเป็นกำลังใจกับการเรียนและการทำงานอยู่เสมอ

“วันนี้เมื่อลูกศิษย์ก้าวสู่ความสำเร็จขั้นหนึ่งแล้ว ขอให้มีความรักและผูกพันกับมหาวิทยาลัย ใช้พลังแห่งความสามัคคีดูแลกันและกัน เมื่อมีเวลาหันกลับมาดูแลมหาวิทยาลัย และดูแลน้องๆที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ ที่สำคัญขอให้ช่วยกันรักษาชื่อเสียงและเกียรติภูมิของมหาวิทยาลัยเอาไว้ ซึ่งผู้บริหารและอาจารย์จะเฝ้ามองลูกศิษย์ได้นำความรู้ทำงานรับใช้ประชาชนและประเทศชาติ จะคอยชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ลูกศิษย์ประสบความสำเร็จในชีวิตดังที่ปรารถนาต่อไป”

ด้าน นายสุเนติ คงเทพ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลชั้นต้น ในศาลจังหวัดชลบุรี เป็นผู้แทนศิษย์เก่า กล่าวว่า เมื่อเข้ามาเรียนที่ ม.รามคำแหง ได้ยินคำขวัญว่า “เปลวเทียนให้แสง รามคำแหงให้ทาง” ในความคิดของตนนั้น ‘เปลวเทียนให้แสง’ คือ เมื่อแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ความมืดจะเข้ามาครอบงำ ความกลัวก็จะเข้ามาแทนที่ มนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่ใช้ไฟ ไฟจะไล่ความมืดออกไป ทำให้มนุษย์มองเห็น ไล่ความกลัวออกไปก่อให้เกิดปัญญาและความคิด ไฟจึงเป็นจุดกำเนิดของทุกพิธีกรรมในทุกศาสนา และใช้เทียนเพื่ออธิษฐานในทุกพฤติกรรม ดังนั้น ม.รามคำแหง จึงเป็นสายธารแห่งการเกิดปัญญา ส่วน ‘รามคำแหงให้ทาง’ คือ ทางที่ให้โอกาสเข้าถึงแหล่งทรัพยากรทางการศึกษา และนำมาสู่โอกาสในชีวิตที่ก้าวมาถึงวันนี้ได้

“ฝากให้เพื่อนๆ น้องๆ ได้ศึกษาหาความรู้ หาความก้าวหน้าจากศิลปวิทยาการหลายแขนง อย่าให้ใครมองว่า เราขาดการใฝ่รู้กับสิ่งใหม่ นำศิลปวิทยาการ นั้น ๆ มาใช้ประกอบอาชีพ รับใช้ประชาชน รับใช้ประเทศชาติด้วยความยุติธรรม หวังว่า เพื่อนๆน้องๆจะมีแรงผลักดันเดินไปข้างหน้า รักษาชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยที่จะติดตัวไปกับพวกเราไปตลอดชีวิตด้วย” นายสุเนติ กล่าว

สำหรับรายชื่อศิษย์เก่านิิติศาสตร์ ม.ร. ที่ได้รับพระราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นผู้พิพากษาประจำศาล มีดังนี้ นายธนสร สุทธิบดี, นายภูชิชย์ จิตรบุญ, นายอำนาจ โชติพงศ์แสงศรีมา, นายศิริวัตร์ เท่าบุรี, นายจตุพล แก้วรุ่งฟ้า, นายปวีณ ปิ่นประยงค์, นายวีระยุทธ แสงไกร, นายวิศณุกร แทนรินทร์, นายสุเนติ คงเทพ, นายอรุณ ดีวังพล

นายมนูญ จันทร์แก้ว, นายไพศาล ลูกจันทร์, นายวิษิฐร์ บัญชาพัฒนศักดา, นายวินิจ ประเทืองสถบดี, นายนิติรัฐ นาสมใจ, นายมงคล ลุ้งใส้, น.ส.นภสร วิจักษณบดี, นายมงคล สงปรางค์, นายกรกฎ เพ็ชรมีศรี, นายอัครณัฏฐ์ รัตนตรัยเจริญ และ นายปริญญา จารวัฒน์

และ อัยการผู้ช่วยมีดังนี้ นายสมณรรค์ บัวเกิด, นายปิติภัทร จักรเพชร, นายเกษมทรัพย์ คำสอน, น.ส.อังคณา โชติช่วง, นายชัยยุทธ ทองอินทร์, พันตำรวจโทจักรกฤช ชูคง, น.ส.ณัฐนันท์ บุระคำ, นายอนันต์ชัย คีรีกิจขจร, นายพิสุทธิ์ บัวแย้ม, นายจตุพร ศรีวัน, นายภาสกร เที่ยงพูนวงศ์, นายอาทรณ์ เกตุแก้ว, นายมิ่งวรินท์ ศรีศิริพงศ์, นายสรวิชญ์ ใจงาม และนายพงศ์ธาริน สมร

-- advertisement --