-- advertisement --

สพฐ.เปิดห้องเรียนดนตรี 3 รร.ชายแดนใต้

นำร่อง ม.1 และ ม.4 ระดับชั้นละ 1 ห้องเรียน พร้อมจัดงบฯ ซื้อคุรุภัณฑ์+จ้างครูสายดนตรี เปิดเทอมนี้ได้เรียน

เมื่อเร็วๆ นี้ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงโครงการห้องเรียนดนตรีและการจัดกิจกรรมนำเสนอผลงานของนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษ ด้านทัศนศิลป์ ด้านดนตรี และนาฏศิลป์ ว่าตามที่รัฐบาลได้ให้การส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับผู้ที่มีความสามารถพิเศษในหลายรูปแบบ ตามความสนใจ และความถนัดของผู้เรียน และด้วยสภาวะการในภาคใต้ ยังคงมีความรุนแรงอยู่ในบางพื้นที่ ซึ่งอาจส่งผลถึงสภาพจิตใจและอารมณ์ของผู้คน และควรได้รับการช่วยเหลือฟื้นฟู ให้มีความเข้มแข็งทั้งด้านร่างกายจิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญา

โดยกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) พิจารณาแล้วว่า ศิลปะและดนตรี เป็นวิชาที่จะช่วยกล่อมเกลาจิตใจ สามารถสร้างคนให้เป็นคนดีมีจิตใจอ่อนโยน และเป็นสื่อในการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคม ขณะที่โรงเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลายโรงเรียนก็ให้การสนับสนุนนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษด้านดนตรี ให้ได้รับการพัฒนาศักยภาพอย่างทัดเทียมกับนักเรียนในภูมิภาคอื่นๆ

“ศธ.จึงส่งเสริมให้นักเรียนเหล่านี้มีโอกาสได้รับการศึกษาตามความสนใจและความถนัด ส่งต่อให้เรื่องรับการศึกษาด้านดนตรีในระดับอุดมศึกษา รวมสั่งสร้างแนวทางในการประกอบอาชีพในอนาคต โดยได้คัดเลือกโรงเรียนที่มีความพร้อม และอนุมัติให้เป็นห้องเรียนดนตรีจำนวน 3 โรงเรียน ได้แก่ รร.เบญจมราชูทิศ จ.ปัตตานี รร.คณะราษฎร์บำรุง จ.ยะลา และ รร.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว

ด้านนายบุญรักษ์ ยอดเพชร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ได้ดำเนินการห้องเรียนดนตรีสำหรับโรงเรียน ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้วางแผนการดำเนินการระยะแรก เพื่อให้โรงเรียนทั้ง 3 แห่ง สามารถจัดการเรียนการสอนได้ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 และเปิดห้องเรียนดนตรีในระดับชั้น ม.1 จำนวน1 ห้อง แผนการเรียนวิทย์-ดนตรี และชั้น ม.4 จำนวน 1 ห้อง แผนการเรียนศิลป์-ดนตรี

โดย รร.เบญจมราชูทิศ สามารถรับนักเรียน ม.1 ได้ 37 คน ม.4 รับได้ 13 คน, รร.คณะราษฎร์บำรุง ม.1 รับได้ 41 คน และ ม.4 รับได้ 20 คน รร.สุไหงโกลก ม.1 รับได้ 19 คน ม.4 รับได้ 15 คน โดยพบว่าโรงเรียนอย่างมีความต้องการอัตรากำลังเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถจัดการเรียนการสอน และพัฒนาทักษะด้านดนตรีของนักเรียน ซึ่งในระยะแรกควรมีครูอัตราจ้างไม่เกิน 5 คน ทำหน้าที่การสอนในรายวิชาดนตรีตามหลักสูตร และสอนดนตรีตามกลุ่มเครื่องดนตรีของวงโยธวาทิต เช่น กลุ่มเครื่องลมไม้ เครื่องลมทองเหลือง และ เครื่องจังหวะ

อย่างไรก็ตาม สพฐ.จะจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าครุภัณฑ์ดนตรีให้โรงเรียนทั้ง 3 แห่ง โดยจะพิจารณาจัดซื้อเครื่องดนตรีในวงโยธวาทิตเป็นหลัก พร้อมทั้งให้การสนับสนุน อัตรากำลังเพิ่มเติม อีกทั้งยังได้วางแผนสร้างเครือข่ายกับมหาวิทยาลัยทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ที่เปิดสอนสาขาดนตรี โดยจะพัฒนาสู่การทำข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อส่งนักเรียนเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาต่อไป

—————

-- advertisement --