-- advertisement --

 กาลพฤกษ์ เบ่งบานในหัวใจ... น้องเพาะกล้า พี่ปลูกป่ามอดินแดง

มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีนโยบายพัฒนานักศึกษา ด้วยกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เช่น ด้านวิชาการ ด้านอาสาพัฒนาและบำเพ็ญประโยชน์ ด้านศิลปวัฒนธรรม ด้านคุณธรรมจริยธรรม ด้านกีฬาและนันทนาการ เพื่อมุ่งส่งเสริมให้เป็นบัณฑิตที่พึ่งประสงค์ของสังคม เป็นไปตามปณิธานมหาวิทยาลัย

ได้แก่ วิทยา คือความรู้ดี จริยา คือความประพฤติดี และ ปัญญา คือความฉลาดอันเกิดแต่การเรียนดีและคิดดี ซึ่งก่อให้เกิดกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่ให้นักศึกษาได้เลือกตามความสนใจ ภายใต้การดูแลด้านนโยบายที่จะให้การสนับสนุนส่งเสริมโดยฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสร้างสรรค์อื่นๆ ที่เกิดจากการทำงานของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลด้านจิตอาสาที่รวมตัวกันมาช่วยเติมเต็มส่วนที่ยังเป็นความต้องการของสังคมหรือสถาบันเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาร่วมมือกัน เช่นเดียวกับโครงการ ”น้องเพาะกล้า พี่ปลูกป่าที่มอดินแดง” อันเกิดขึ้นจากการร่วมคิดร่วมทำของ ศิษย์เก่า นักศึกษา และบุคลากร

นายภาสกร เตือประโคน นักวิชาการศึกษา กองพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ ม.ขอนแก่น ซึ่งได้รับประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติด้วยรางวัลด้านการสนับสนุนการปฏิบัติงานภายนอกมหาวิทยาลัยดีเด่น เกี่ยวกับการพัฒนาชุมชน สิ่งแวดล้อมและศิลปวัฒนธรรม ม.ขอนแก่น ประจำปี 62ซึ่งริเริ่มและขับเคลื่อนโครงการ “น้องเพาะกล้า พี่ปลูกป่าที่มอดินแดง” กล่าวว่า เป้าหมายโครงการคือส่งเสริมการปลูกต้นกาลพฤกษ์ ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ที่สวยงามมีความสำคัญต่อความรู้สึกของชาวมหาวิทยาลัยทั้งที่ยังศึกษาอยู่และที่จบการศึกษาไปแล้ว

ผู้คนทั่วไปก็ชื่นชอบความสวยงามและเข้ามาในมหาวิทยาลัยเพื่อเก็บภาพความงดงาม ก็เลยมาคิดว่าถ้าหากเราได้มีส่วนร่วมแล้วชวนน้องๆ นักศึกษาหรือคนที่สนใจมาร่วมปลูกร่วมดูแลเพื่อช่วยกันกับเจ้าหน้าที่ส่วนอาคารสถานที่ คงจะทำให้กาลพฤกษ์ได้เติบโตสมบูรณ์ทดแทนการสูญเสียของต้นที่ตายไปจากศัตรูพืช ได้ เพิ่มความรักความผูกพันในการเป็นผู้ดูแลสภาพแวดล้อม จะส่งผลให้บรรยากาศม.ขอนแก่นสวยงามมีผลต่อจิตใจและความรู้สึกน่าอยู่น่าเรียนน่าพักอาศัย

จากศิษย์เก่าคณะเกษตรศาสตร์ รุ่นที่ 39 โดยส่วนตัวภาสกรชอบปลูกต้นไม้ พอมาได้ทำงานกับนักศึกษาก็เลยอยากให้สิ่งที่เรารักได้แบ่งปันเชื่อมโยงกับน้องๆที่มีความคิดเดียวกัน ดังนั้น จากปี 2558 ที่ได้เริ่มนำเมล็ดมาลองเพาะกล้าพันธุ์เองซึ่งครั้งแรกได้ต้นพันธุ์ ประมาณ 300 ต้น เริ่มปลูกบริเวณใกล้เคียงหอพักทดแทนต้นที่ตาย และส่วนหนึ่งแจกจ่ายออกไปยังผู้ที่สนใจโดยเฉพาะกับศิษย์เก่าที่สนใจมาก

จากนั้นเริ่มมีการเพาะในรุ่นต่อๆ มา โดยครั้งนี้เริ่มมีน้องนักศึกษาทั้งระดับปริญญาตรี โท เอก ที่รู้ข่าวก็มาเป็นจิตอาสามากขึ้น ช่วยกันกะเทาะเมล็ดและเพาะพันธุ์เตรียมดินปลูกและลงมือปลูกกันเอง ขณะที่ศิษย์เก่าและบุคลากรเริ่มสนับสนุนทุนจัดหาดินปลูก เครื่องมืออุปกรณ์ จิตอาสาต่างจัดหาอาหารน้ำดื่มมาร่วมสมทบ

กลายเป็นกิจกรรมที่ขยายผลออกไปอย่างกว้างขวางโดยใช้พื้นที่สวนหย่อมบริเวณหอพักที่ 12 เป็นที่ทำกิจกรรม ถูกเรียกติดปากนักศึกษาว่า “โรงเพาะชำ ภารโรงลุงยอด” ซึ่งหมายถึงชื่อผู้ริเริ่มโครงการที่นักศึกษาคุ้นเคย

ภาสกรเล่าว่า ต้นกาลพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่สวยงามและมีคุณค่าทางความรู้สึกของศิษย์เก่าและผู้ที่เคยอาศัยใน มข. การเพาะกล้าที่ทำขึ้นมาก็เกิดจากการสนับสนุนและความร่วมมือด้วยจิตอาสา ดังนั้น ต้นกล้าที่เรามีไว้ส่วนหนึ่งเราก็เชิญชวนน้องๆไปปลูกกันเพื่อทดแทนต้นเดิมที่ตายและปลูกเสริมในพื้นที่สวนหย่อมตามหอพักทั่วมหาวิทยาลัยที่สามารถดูแลได้ทั่วถึงให้เป็นกลุ่มสวน

หลีกเลี่ยงการปลูกแบบกระจายไปตามพื้นที่ป่าหรือที่ห่างไกลจากการดูแล ซึ่งเมื่อเขาเติบโตออกดอกจะเป็นกลุ่มสวนและทางเดินที่สวยงาม เช่น สวนข้างหอพักที่ 16เป็นต้น อีกส่วนหนึ่งจะมอบให้กับศิษย์เก่าและผู้ที่ขอมาเพื่อไปปลูกเองในที่พักอาศัย เพราะเชื่อว่ากาลพฤกษ์จะได้รับการดูแลอย่างดีเมื่อผลิดอกจะทำให้พวกเขาได้ระลึกถึงม.ขอนแก่น

มาถึงขณะนี้ ภาสกรว่า จากกล้าพันธุ์ที่ทำไว้ได้ประมาณ 2,000 ต้นได้ถูกแจกจ่ายไปจนหมดแล้ว ซึ่งวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เชิญชวนนักศึกษามาร่วมกันปลูกกาลพฤกษ์ที่ยังพอเหลืออยู่บริเวณสวนหย่อมข้างหอ16เพื่อปิดกิจกรรมในรอบนี้เพราะเป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูฝน ก่อนที่จะเริ่มโครงการครั้งต่อไป

“ปีนี้กาลพฤกษ์ต้นแรกของโครงการเมื่อปี 2558 เพิ่งผลิดอกให้ได้ชื่นชมในความสำเร็จของพวกเราทุกคน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยปลูกฝังการมีจิตสาธารณะลงไปในใจนักศึกษา และแสดงให้เห็นว่าศิษย์เก่าของเรามีความรักและผูกพันกับสถาบันตลอดมา การทำความดีในบางสิ่งเล็กจะนำไปสู่เรื่องดีๆ ที่ใหญ่ขึ้นมากขึ้น

โครงการ “น้องเพาะกล้า พี่ปลูกป่าที่มอดินแดง” เป็นเพียงกิจกรรมเล็กๆ ของบ้านหลังนี้ ที่หวังจะเดินต่อไปด้วยการส่งมอบความดีให้กันและกันและยังต้องการการสนับสนุนจากทุกคนในครอบครัวมอดินแดง” ภาสกร กล่าวทิ้งท้าย

-- advertisement --