หน้าแรก ข่าวการศึกษา อภิปรายไม่ไว้วางใจ : ก้าวไกลเปิดคลิปกล่าวหา “ล็อกสเปก” นร. เตรียมทหาร สกัดคนหลากหลายทางเพศ และชาว “3 นิ้ว”

อภิปรายไม่ไว้วางใจ : ก้าวไกลเปิดคลิปกล่าวหา “ล็อกสเปก” นร. เตรียมทหาร สกัดคนหลากหลายทางเพศ และชาว “3 นิ้ว”

-- advertisement --
  • หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ
  • ผู้สื่อข่าวบีบีซีไทย

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กล่าวหาว่ากองทัพไม่ใช่

ที่มาของภาพ, ฝ่ายประชาสัมพันธ์ รัฐสภา

คำบรรยายภาพ,

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กล่าวหาว่ากองทัพไม่ใช่ “กองทัพของประชาชน”

ส.ส. พรรคก้าวไกลอภิปรายกล่าวหาว่ามีการ “ล็อกสเปก” ในกระบวนการคัดเลือกนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร (ตท.) ผ่านการ “ตั้งคำถาม” เพื่อเอื้อประโยชน์ทางการเมืองให้แก่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมเปิดคลิปเสียงการสัมภาษณ์ผู้สมัครเข้าเรียนใน ตท. ซึ่งถูกตั้งคำถามหยั่งทัศนคติทางทางการเมือง และกีดกันบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ

ขณะที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ผู้ถูกกล่าวหา ปฏิเสธว่าไม่เคยคิดนำกำลังทหารและตำรวจมาปกป้องตัวเอง เพราะ “ป้องกันตัวเองได้”

ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล วันที่ 2 ก.ย. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกตต่อจำวนผู้สมัครเข้าเรียนในโรงเรียน ตท. ที่ลดลง จากปี 2556 มีผู้สมัคร 76,012 คน แต่ปีนี้ลดเหลือ 30,836 คน หรือคิดเป็น 60% สะท้อนความไม่เชื่อมั่นในกองทัพ

ส.ส. พรรคฝ่ายค้านวิจารณ์ว่า ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ มีเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายกับภาพลักษณ์กองทัพ ไม่ว่าจะเป็น เหตุกราดยิงที่โคราช, กรณี “ผู้กำกับโจ้” ซึ่งต้องสาวให้ถึงเครือข่ายที่คอยอุปถัมภ์ค้ำชู รวมถึงกรณีทุจริตเบี้ยเลี้ยงทหารทหารเกณฑ์ต่าง ๆ พร้อมกล่าวหาอดีตผู้นำคณะรัฐประหารปี 2557 ว่าเป็นผู้ทำให้ภาพลักษณ์ทหารแย่ลง

“ไม่ใช่การสร้างกองทัพที่ทันสมัย เป็นมืออาชีพ แต่เป็นกองทัพที่สยบยอมต่ออำนาจของพล.อ. ประยุทธ์ และเครือข่าย สยบยอมต่อระบบปรสิตที่ตนสร้างขึ้น ต้องการนายทหารที่ยึดโยงกับขั้วอำนาจของตน และได้กำลังพลที่สั่งซ้ายหันขวาหันได้” นายพิจารณ์กล่าว

ที่มาของภาพ, กองโฆษก พรรคก้าวไกล

ในการสอบคัดเลือกผู้สมัครเข้าเรียนในโรงเรียน ตท. ปี 2564 ถูกนายพิจารณ์ระบุว่า “มีการแทรกซึม” หลังปรากฏเอกสารบันทึกข้อความ “รร.นรต. (โรงเรียนนายร้อยตำรวจ) ขอรายชื่อผู้ปฏิบัติหน้าที่ Local CAT และ จิตอาสา 904 เป็นคณะกรมการสอบสัมภาษณ์ นตท. (นักเรียนเตรียมทหาร)” ลงวันที่ 16 ก.ค. 2564 ลงนามโดย “นายพลตำรวจ” รายหนึ่ง ทั้งนี้มีการอนุมัติให้ Local CAT จำนวน 50 นาย และ จิตอาสา 904 จำนวน 25 นาย ร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์

แม้เอกสารนี้ถูกใช้อภิปรายกลางสภา แต่บีบีซีไทยไม่สามารถยืนยันข็อเท็จจริงตามเอกสารฉบับนี้ได้

เผยแนวคำถามเพื่อประเมินความจงรักภักดี-กีดกันคนหลากหลายทางเพศ

จากนั้นนายพิจารณ์ได้เปิดคลิปเสียง 3 คลิป แต่ถูกดัดแปลงเสียงทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าเพื่อปกป้องแหล่งข่าว

คลิปแรก อ้างว่าเป็นเสียงของ “นายพลตำรวจ” ขณะกำลังประชุม/ให้โอวาทคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์ โดยมีการให้แนวทางการตั้งคำถามเพื่อประเมินความจงรักภักดี ทำให้ ส.ส. รายนี้เกิดความสงสัยว่า “จะประเมินความจงรักภักดีออกมาเป็นคะแนนในเชิงวิทยาศาสตร์ได้อย่างไร และจะประเมินได้อย่างไรว่าผู้สอบตอบตามจริง ไม่ใช่เอาใจกรรมการ”

นอกจากนี้ยังมีแนวคำถามเชิงสอบถามความเห็นต่อ “ม็อบ 3 นิ้ว” และการบริหารงานของนายกฯ รวมถึงมีการตั้งคำถามที่นายพิจารณ์เชื่อว่ามีจุดประสงค์ในการคัดผู้สมัครที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT) หรือมีทัศนคติเชิงบวกต่อ LGBT ออกไปจากระบบ

คลิปที่สอง ถูกระบุว่าเป็นเสียงขณะสอบสัมภาษณ์ แต่ตัดมาเฉพาะเสียงกรรมการ ตัวอย่างคำถาม เช่น “ถ้าเพื่อนผู้ชายมาบอกชอบจะทำอย่างไร” และ “คิดอย่างไรถ้าตำรวจทหารเป็นตุ๊ดเป็นแต๋วอยู่ในเครื่องแบบ”

นายพิจารณ์ชี้ว่าคลิปเสียงนี้ สอดคล้องกับชุดคำถามในการสัมภาษณ์ 18 ข้อ ที่บางส่วนสะท้อนการเลือกปฏิบัติทางเพศ

ที่มาของภาพ, กองโฆษก พรรคก้าวไกล

คำบรรยายภาพ,

เอกสารชุดนี้ถูกใช้อภิปรายในสภา

คลิปสุดท้าย ถูกระบุว่าเป็นเสียงขณะสอบสัมภาษณ์ แต่ตัดมาเฉพาะเสียงกรรมการ ตัวอย่างคำถาม เช่น “รู้จักม็อบ 3 นิ้วไหม” “รู้ไหมว่าเขามีข้อเรียกร้องอะไร” “มีข้อเรียกร้องเกี่ยวกับสถาบันฯ ไหม” “คิดอย่างไรกับการทำงานของรัฐบาล” และ “คิดอย่างไรกับการปฏิวัติรัฐประหาร”

นายพิจารณ์เห็นว่า แนวคำถามเช่นนี้คือการคัดเฉพาะคนที่เห็นด้วยกับ พล.อ. ประยุทธ์ ถ้าไม่เอา ก็ไม่ต้องมาเรียน ตท. และการตั้งคำถามแบบนี้เพื่อให้ผู้สมัครหาเหตุผลมาสนับสนุนการสืบทอดอำนาจหรือไม่

“นี่คือการล็อกสเปค ดับฝันเด็ก ดับฝันเยาวชนที่อยากเป็นทหาร ตำรวจ เพียงเพราะเขาไม่เห็นด้วยกับ พล.อ. ประยุทธ์หรือ เรื่องนี้ร้ายแรงมาก” ส.ส. ก้าวไกลกล่าว

ในการการสอบคัดเลือกเข้าโรงเรียน ตท. มี 3 ขั้นตอน ได้แก่ การสอบข้อเขียน การสอบทางกายภาพหรือร่างกาย และการสอบสัมภาษณ์

นอกจากนี้ ส.ส. พิจารณ์ยังกล่าวด้วยว่า “นี่ไม่ใช่กองทัพของประชาชน” สะท้อนผ่านการใช้ความมั่นคงนำทุกสิ่งเพื่อความมั่นคงของเก้าอี้นายกฯ การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์สืบทอดระบอบของตน และหล่อเลี้ยงฐานอำนาจตัวเองด้วยงบประมาณ

ประยุทธ์ลั่น “ป้องกันตัวเองได้” ไม่ต้องให้ ตร.-ทหาร ปกป้อง

ด้าน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวชี้แจงต่อสภาว่า ในการคัดเลือกนักเรียน นรต. และ ตท. สิ่งสำคัญที่สุดคือทัศนคติ การที่จะเข้ามาเป็นข้าราชการ ท่านอาจมองว่าเป็นประชาธิปไตย จะเป็นอย่างไรก็ได้ ถามว่าเวลาไปรบ ไปอยู่สถานีตำรวจ ทหารที่มีผู้ช่วยล้วน ๆ มันจะอยู่กันอย่างไร ผู้หญิงจะอยู่อย่างไร เขาต้องการจะลดปัญหาตรงนั้นที่จะเกิดขึ้นได้ในหน่วยงาน ในพื้นที่การสู้รบ แล้วมันจะเกิดความวุ่นวายหรือเปล่า นี่ก็เป็นเป็นเรื่องซักถามธรรมดา ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

“สิ่งสำคัญที่สุดที่ท่านบอกว่าสอบถามทัศนคติว่าจงรักภักดีหรือไม่ ท่านบอกไม่จำเป็น ผมว่าท่านทำไม่ถูก ท่านเอาประเด็นเหล่านี้มาพูดกับผมไม่ได้ เขาก็จำเป็นต้องมีการตรวจสอบ” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

นายกรัฐมนตรียังปฏิเสธเรื่องการนำกำลังทหารและตำรวจมาปกป้องตัวเองด้วย

“ไม่ใช่ว่าผมจะเอาตำรวจ เอาทหารมาปกป้องผม ไม่ต้องหรอกครับ ผมปกป้องตัวของผมได้ ดังนั้นใครจะมาทำอะไรผม เห็นขู่กันประจำเนี่ยข้างนอก ก็ลองมาก็แล้วกัน ผมไม่ได้ท้าทายนะ ผมคิดว่าผมป้องกันตัวเองได้”

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

คำบรรยายภาพ,

การยิงแก๊สน้ำตาใส่ฝูงชนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำบริเวณแยกดินแดง โดยเฉพาะเมื่อผู้ชุมนุมพยายามเคลื่อนเข้าเข้าสู่แนวเจ้าหน้าที่

ส่วนที่มีการพูดกันว่าปิดกั้นการจราจรแยกดินแดงเพื่อดูแลบ้านพักของนายกฯ ซึ่งตั้งอยู่ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ถ.วิภาวดีรังสิต หลังมีประชาชนบางส่วนไปประท้วงขับไล่นายกฯ ใกล้แยกดินแดงหลายครั้ง และเกิดการทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน จนต่างฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บนั้น

พล.อ. ประยุทธ์ชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ไปปกป้องบ้านของเขา แต่ไปดูแลประชาชนที่เดือดร้อนจากเส้นทางคมนาคมและการจราจรที่ติดขัด พร้อมตั้งคำถามต่อผู้ประท้วงด้วยว่า “ท่านจะทำไปทำไม ไม่เข้าใจ ท่านะเข้าไปจับผมหรือไง มันทำได้ไหมเล่า ท่านบอกว่ามาปกป้องผมคนเดียว”

-- advertisement --