-- advertisement --
สยามรัฐออนไลน์ 9 กรกฎาคม 2565 19:58 น. การเมืองท้องถิ่น

ผู้เข้าร่วมอบรมหลักสูตร “นักการเมืองท้องถิ่นก้าวหน้า” ดูงาน “เทศบาลนครนครราชสีมา” เยี่ยมชม “ทีเค สแควร์ โคราช – งานทะเบียนราษฎร – ศูนย์ป้องกันภัยฯ “ไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ” ที่ปรึกษานายกเล็กโคราช นำชม – “สุรวุฒิ เชิดชัย” อดีตนายกฯ ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์



ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ จ.นครราชสีมา พรรณิการ์ วานิช, เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ และไกลก้อง ไวทยการ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า นำผู้เข้าร่วมอบรมหลักสูตร “นักการเมืองท้องถิ่นก้าวหน้า (Progressive Academy)” ดูงาน การบริหารงานของเทศบาลนครนครราชสีมา โดยมี ไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา นำชม ทีเค สแควร์ โคราช ต่อด้วยงานทะเบียนราษฎร และงานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของเทศบาล ขณะที่ในช่วงบ่าย สุรวุฒิ เชิดชัย อดีตนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ในฐานะที่เคยเป็นผู้บริหารเทศบาลแห่งนี้

พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า กล่าวว่า เทศบาลนครนครราชสีมา เป็นองค์กรปกครองปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่น่าสนใจมาก จากที่พวกเรามีโอกาสไปดูงานของ อปท.ต่างๆ ในหลายๆ แห่งทั่วประเทศ กล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่าที่นี่เป็นเทศบาลที่ดูแลเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีที่สุด ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพชีวิตประชาชนมากที่สุด ซึ่งนี่เป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น การที่พาผู้เข้าอบรมหลักสูตรนักการเมืองท้องถิ่นก้าวหน้ามาดูงาน เพื่ออยากจะให้เห็นว่า ถ้าเรามีผู้บริหารท้องถิ่นที่ดี มีระบบบริหารจัดการที่ดี มีการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนดีขึ้นได้ ดังเช่น ที่ตนเองสนใจมากจากที่เคยมาเยี่ยมชมเทศบาลนครนครราชสีมาก็คือ โรงเรียนเทศบาล 5+1 คือโรงเรียนเทศบาล 1 – 5 และโรงเรียนกีฬา ซึ่งมีการเน้นการเรียนการสอนเฉพาะทางที่น่าสนใจ เนื่องจากโคราชเป็นเมืองที่มีเด็กและเยาวชนมากที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมี ทีเค แสควร์ และอาร์ท แกลอรี โคราช ที่เกิดขึ้นและตั้งอยู่ในโซนโรงเรียน เพื่อให้เด็กเยาวชนได้มาใช้บริการฟรี



ขณะที่ สุรวุฒิ เชิดชัย อดีตนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา กล่าวว่า วิธีการคิดในการทำงานของตนเองในขณะที่ดำรงตำแหน่ง หลักๆ แล้วคือเมื่อทำแล้วประชาชนในท้องถิ่นของเราได้ประโยชน์หรือไม่ นอกจากเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนแล้ว หลายๆ โครงการที่ทำก็เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เช่น กรณีของ ทีเค สแควร์ โคราช ต้องตั้งอยู่ตรงนั้นเพราะเป็นโซนของโรงเรียนจำนวนมาก เราอยากเห็นเด็กมาใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะลูกหลานคนยากคนจนได้มาใช้ รวมทั้งเปิดวันเสาร์-อาทิตย์ด้วย ซึ่งเรื่องเงินไม่ใช่สาระหลักต่อการลงทุนตรงนี้ เราสามารถตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นของเทศบาลเพื่อเอาเงินมาใช้เพื่อประโยชน์ของลูกหลานเราได้ ขณะที่เรื่องการศึกษาที่ให้ความสำคัญ เป็นเพราะคิดว่าความเหลื่อมล้ำทางการศึกษานั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก คนจนมีทางเลือกน้อย เราต้องมาช่วยดูแลตรงนี้ ขณะที่โรงเรียนเทศบาล 5+1 แห่ง ของเราก็เพื่อเด็กและเยาวชนที่มีความชอบความถนัดแตกต่างกัน คือ โรงเรียนเทศบาล 1 มุ่งสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ, โรงเรียนเทศบาล 2 เน้นเรื่องคหกรรม วิทยาศาสตร์การอาหาร, โรงเรียนเทศบาล 3 เน้นเรื่องภาษาต่างประเทศ, โรงเรียนเทศบาล 4 เน้นหลักสูตรช่างต่างๆ, โรงเรียนเทศบาล 5 ร่วมมือกับเอกชนเพื่อให้เด็กได้เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยได้ และอีก 1 คือ โรงเรียนกีฬา

​​​​​​​

“เรื่องการศึกษา หลักคิดสำคัญคือต้องคิดว่าเราทำเพื่ออะไร สำหรับเราคิดว่าเพื่อที่จะส่งเด็กโคราชไปให้สุดในสิ่งที่เขาชอบ จากนั้นประโยชน์จะกลับมาเกิดกับที่โคราชเอง เป้าหมายของเราต้องเป็นเด็ก ต่างจากปัญหาการศึกษาทุกวันนี้ที่วุ่นวายไม่ตอบโจทย์ก็คือดันไปคิดว่า เป้าหมายคือโรงเรียน ทำเพื่อให้โรงเรียนมีชื่อเสียง”  สุรวุฒิ กล่าว และบอกด้วยว่า นอกจากนี้ เทศบาลนครนครราชสีมา ยังมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ไม่มีวันหยุดปิดเทอม เรียนทุกวัน เพราะทักษะของเด็กไม่สามารถหยุดพัฒนาได้ และพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กเล็กก็ต้องทำงานไม่มีมีปิดเทอมยาวๆ เช่นกัน ดังนั้น เราต้องให้เด็กได้ไปเรียนทุกวัน โดยการไปบริหารจัดการหมุนเวียนเรื่องวันหยุดของครูแทน

-- advertisement --