น.ส.ทิฐิพันธ์ เพ็ชรตระกูล รองนายกเมืองพัทยา เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันกัญชาหรือกัญชงในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา ว่า หลังจากเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาได้มีการปลดล็อกกัญชา ที่รัฐได้มีการเน้นย้ำในการใช้กัญชาทางการแพทย์เป็นสำคัญ ซึ่งได้มีการออกกฎหมายในการรองรับแต่ยังไม่ครอบคลุมเนื่องจากยังไม่มีพ.ร.บ.กัญชาโดยตรง โดยเมืองพัทยาได้มีการคำนึงและให้ความสำคัญในเรื่องของมาตรการป้องกันกัญชาในสถานศึกษาเป็นอย่างมาก ด้วยเมืองพัทยามีโรงเรียนในสังกัดถึง 11 โรงเรียน ทั้งนี้แม้จะมีกฎหมายระบุเรื่องของการใช้กัญชานั้นจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปเท่านั้น
ทั้งนี้หลังมีการปลดล็อกการใช้กัญชามาได้สักระยะอาจจะมีการนำกัญชามาแปรรูปมาในอาหาร ขนมต่าง ๆ ทั้งนี้เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังปัญหาที่เกิดจากการใช้กัญชาหรือกัญชงในนักเรียนโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา จะได้มีการจัดประชุมหารือกับผู้บริหารสถานศึกษา เจ้าหน้าที่สำนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันหามาตรการป้องกันต่อไป
เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้กัญชาเกินขนาดทำเกิดอาการข้างเคียง จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตามอยากไปถึงผู้ปกครองของเด็กนักเรียนทุกคนให้ช่วยกันกับโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยาสอดส่องบุตรหลานของท่านและให้คำแนะนำถึงคุณและโทษของการใช้กัญชาหรือกัญชง และอยากให้มีการศึกษาข้อระมัดระวังในการใช้ เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงตามมาเหมือนที่เป็นข่าวรายวัน ซึ่งหากจะนำมาใช้ก็ควรอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์มากกว่า
น.ส.ทิฐิพันธ์ เปิดเผยต่ออีกว่า ในส่วนของเมืองพัทยานั้นที่ผ่านมาก็ได้มีแนวทางในการป้องกันและเฝ้าระวังเรื่องของปัญหายาเสพติด โดยได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พัทยาและสภ.บางละมุง ในการให้ความรู้ถึงโทษภัยของยาเสพติดในสถานศึกษาโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา รวมทั้งกิจกรรมต่อต้านยาเสพติดและการรณรงค์ให้เด็ก เยาวชนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ นอกจากนี้ในส่วนพื้นที่เมืองพัทยาก็จะนำเสนอให้นายกเมืองพัทยาในเรื่องของการจัดโซนนิ่งในเรื่องของพื้นที่กัญชาหรือกัญชงหรือไม่อย่างไร หรือจะเป็นการเปิดพื้นที่เสรีในเรื่องนี้ไปเลย เพื่อเมืองพัทยาได้เป็นเมืองที่น่าอยู่และไม่เป็นอันตรายรวมถึงจะได้เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว
