-- advertisement --

ผมมีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศมานานแล้ว มักจะเป็นตอนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ จึงก็จำเป็นต้องใช้ยาเฉพาะกิจทั้ง ๆ ที่ใจก็กลัวเหมือนกันว่าจะมีผลข้างเคียงภายหลัง มีคำถามว่าผมควรใช้หรือไม่ อังคารที่ 27 เมษายน 2564 เวลา 00.15 น.

หวั่นจะตายคาอก! หนุ่มใหญ่วิตกเพราะใช้'ยาเฉพาะกิจ'

เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ

ผมเป็นแฟนประจำของคุณหมอมานานแล้ว อ่านการตอบปัญหาพร้อมกับการให้ความรู้เรื่องต่าง ๆ รวมทั้งบทความที่คุณหมอเขียนในหนังสือพิมพ์์มาโดยตลอด ล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งนั้น ได้ความรู้ดีและเข้าใจง่าย ผมอายุ 55 ปี มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศมานานแล้ว แต่อาการไม่มากนัก วันไหนได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ กินอิ่ม นอนหลับได้ดี การแข็งตัวเป็นไปด้วยดี ร่วมรักได้เป็นปกติ วันไหนเหนื่อย นอนไม่ค่อยหลับ พักผ่อนน้อย การแข็งตัวก็ไม่สู้ดี โดยปกติผมทำงานเกือบทุกวัน เดินทางไปติดต่องานกับลูกค้าที่ต่างจังหวัดอยู่เป็นประจำ บางครั้งก็ต้องใช้ยาเฉพาะกิจช่วย ไม่รู้ว่าจะมีผลเสียอย่างไรหรือไม่ แต่ก็จำเป็นต้องใช้ ทั้ง ๆ ที่ใจก็กลัวเหมือนกันว่าจะมีผลข้างเคียงตามมาในภายหลัง ผมอ่านเจอข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์บ่อย ที่กินแล้วเกิดอาการช็อกหัวใจวาย ผมจึงมีคำถามว่ายาเฉพาะกิจควรใช้หรือไม่ และมีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง อันตรายมากแค่ไหนครับ

ด้วยความนับถือ

วสุ 55

ตอบ วสุ 55

ปัจจุบันมีวิธีการรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้หลากหลายวิธี แต่วิธีที่ได้รับความนิยมคือ การรักษาโดยการใช้ยาขยายหลอดเลือดขององคชาต การรักษาโดยการใช้ยาขยายหลอดเลือดขององคชาตเป็นการรักษาที่แพร่หลาย เพราะสะดวก รับประทานง่าย ยาออกฤทธิ์ค่อนข้างเร็ว และได้ผล 60-70%ในคนไข้ส่วนใหญ่หลังจากรับประทานยา ยาจะไปออกฤทธิ์ช่วยให้หลอดเลือดบริเวณองคชาตขยายตัวได้ดีขึ้นแต่จะดื้อยาง่าย เลือดแดงไปเลี้ยงองคชาตได้มากขึ้น เกิดการคั่งของเลือดแดงในองคชาตมากขึ้น ทำให้การแข็งตัวดีขึ้น

ดังนั้นด้วยกลไกการออกฤทธิ์ของยากลุ่มนี้ จึงไม่ใช่ยากระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน แต่ยาจะช่วยให้การแข็งตัวขององคชาตดีขึ้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่ใช้ยากลุ่มนี้แล้วได้ผลแค่ 60-70%เท่านั้น การใช้ยาให้ได้ผลดีต้องมีการรับประทานยาให้ถูกวิธี กล่าวคือ ควรรับประทานยาก่อนมีเพศสัมพันธ์ประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง ควรรับประทานยาช่วงท้องว่างเพื่อช่วยเพิ่มการดูดซึมของยา ไม่ควรทานยาพร้อมเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

จากการศึกษาพบว่า ยากลุ่มนี้ไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยที่ใช้ยาเป็นโรคหัวใจเพิ่มมากขึ้น แต่เนื่องจากกลไกการออกฤทธิ์ของยาที่มีผลต่อการขยายหลอดเลือดบริเวณองคชาตอาจมีผลทำให้หลอดเลือดบริเวณอื่นในร่างกายมีการขยายตัวได้บ้าง จึงเป็นข้อห้ามในการใช้ยากลุ่มนี้ในผู้ป่วยโรคหัวใจที่ทานยาขยายหลอดเลือดหัวใจกลุ่มไนเตรททุกตัว เพราะยาสองกลุ่มนี้จะเสริมฤทธิ์กันทำให้หลอดเลือดมีการขยายขนาดมากกว่าปกติ เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำเข้าสู่ภาวะช็อกและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นผู้ป่วยรายใดที่รับประทานยาขยายหลอดเลือดหัวใจกลุ่มไนเตรท อยู่ห้ามทานยาขยายหลอดเลือดองคชาต

กรณีที่ผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดที่มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกหลังจากรับประทานยาขยายหลอดเลือดองคชาต ให้รีบหยุดกิจกรรมที่ทำอยู่ ถ้าอาการเจ็บหน้าอกไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ทันที การซื้อยากินเองโดยไม่ได้รับการปรึกษาจากแพทย์ถือว่าเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก สำหรับการฟื้นฟูอาการอีดีที่ถูกวิธีและปลอดภัยต่อตัวคุณมากที่สุดคือการฟื้นฟูจากแพทย์โดยฟื้นกล้ามเนื้อเพศร่วมกับยาฉีด จะได้ผลภายใน 2-3 อาทิตย์.